Posts from the ‘องค์กร’ Category

เรามารามา


มองนาฬิกาดู บ่ายสองครี่งละ ถึงกำหนดที่จะต้องออกไปถ่ายรูปหมู่ ทีมประชุมตามที่เตี๋ยมกันกับน้องแก้มบุ๋ม
ผมขยับตัว รำลาสมาชิกในที่ประชุม ขอตัวออกมาก่อน เพราะ นัดหมอไว้ บ่ายสี่ที่รามา

รพ. ที่หาที่จอดรถยากกกกมาก

ผมจอดน้องพันสี ไว้ด้านล่าง ก่อนจะควบออกมาบึดเดียวไปถึงรามา

เลี้ยวเข้ารามา ถาม รปภ ว่า ตึก 1 อยู่ที่ไหน รปภชี้ไปข้างหน้า แต่ ไม่มีที่จะจอดรถได้เลย รปภ ตรงตึก เห็นผม รีบบอกให้ไปจอดตรงช่องข้างๆ ตึก

“ส่งของตึกไหน ถ้าตึกโน้น ไปจอดตรงโน้น จอดได้ 15 นาทีนะ ” รปภ เห็นรถเขียวๆ คงนึกว่า Grab มาส่งของ ผมเลย ได้ที่จอดเลย

ที่ต้องรีบ เพราะเมื่อวันก่อน ใน App มีนัด สลายนิ่ว ตอนสี่โมง แต่ วันนี้ ตอนมาถึง โรงบาล ไหงมีนัด ให้ ไป X ray ช่องท้อง ตอนบ่ายโมงครึ่ง ด้วยหว่า ..นี่ก็เลยเวลามามากแล้ว

พอมาถึงอาคารหนึ่งชั้น 3 กว่าจะหาห้องผ่าตัดเจอ ก็ถามไปหลายคน ผมว่าถ้าใครชอบการผจญภัย ล่าสมบัติตามลายแทง มาเดินหาแผนกต่างๆ ใน โรงบาล นี้ได้ รับรองต้องมีหลงกันบ้างล่ะ

เจ้าหน้าที่ถามก่อนเลยว่า พาญาติมาหรือเปล่า
ผมงง เพราะ ใน App ไม่ได้บอกว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไร และ ต้องพาใครมาบ้าง

“ไม่ได้พามาครับ ” ญาติต้องมาทำอะไรครับ ผมถาม
“การรักษาต้องใช้ยานอนหลับ (พยาบาลไม่ได้บอกว่า ยาสลบ) ฤทธิ์ยาจะออกฤทธิ์แตกต่างกัน แล้วแต่ สภาพร่างกายคนไข้ ดังนั้นต้องมี ญาติมาด้วย
“ผมไม่ทราบเลยครับ นี่ขี่มอเตอร์ไซต์มาด้วยซ้ำ ” ผมบอก โชว์โง่ต่อ
“คนไข้ตามญาติได้ไหมคะ รอได้ถึง ห้าโมงคะ” ผมเดาว่า งานนี้ ถ้าไม่มีญาติก็มาฟรีแน่ๆ

นึกถึงความยากของการมาแล้ว ก็เหนื่อย

เมื่อเดือนที่แล้ว หมอนัดผมไป Follow การรักษานิ่วในไต ที่ตรวจเจอว่าก้อนมันประมาณ 8 mm แถมมีอยู่สามก้อน เมื่อแปดเดือนก่อน ผมคุยกับหมอเรื่องนี้ เพราะ ตอนต้นปีอยู่ๆ ก็ฉี่เป็นเลือด

ครับฉี่เป็นเลือด ซึ่งวันแรกก็เฉยๆ เพราะ มองว่าการมีเลือดออกมา ก็มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ มันดันมีเลือดออกมาสามวัน แล้ว ไม่มีทีท่าว่า จะหยุด เลยไปหาหมอที่นนทเวช
หมอที่นนทเวช บอกว่า ไม่ต้องกังวล สาเหตุ เกิดได้หลายอย่าง แต่ ตอน ultrasound พบก้อนนิ่ว ก็บอกว่า อาจจะเกิดจากตรงนี้ก็ได้
“ผมต้องรักษายังไงหมอ” ผมถามหมอที่นนทเวช
“มีการรักษาด้วยการยิงด้วยคลื่นเสียง” หมอบอก ผมถามราคา หมอบอกประมาณ แสนสาม !
เยอะเหมือนกันแฮะ ถึงจะเบิกได้ แต่ ก็อยากประหยัด เลยไปหาหมอที่รามา
ที่รามา หมอบอกว่าผลจากการยิง โอกาสสำเร็จเท่าๆ กับ การรักษาด้วยยา และ แนะนะให้ทานยาดูก่อน เพราะ นิ่วแบบที่ผมเป็น วิเคราะห์ว่า มาจากยูริคที่สูง
“ถ้าทานยาแล้วเล็กลง ก็หลุดออกมาเอง ถ้าไม่เล็ก ก็ค่อยมายิง” หมอบอก

ผมเชื่อหมอ จนครบหกเดือน หมอตรวจอีกรอบ ไม่เล็กลงเลย … ปัญหา มาจากการดื่มน้ำที่น้อยมากของผม

“ลองยิงดู” หมอบอก แล้วก็ให้ผมไปนัด

Step แรก ต้องนัดแผนกสลายนิ่ว ให้ได้ก่อน แล้วค่อยนัดหมอ
ผมใช้เวลาสี่วัน โทรไปนัดแผนกสลายนิ่ว ตอนแรกให้น้องนัดให้ น้องบอก แผนกนี้ ยุบไปแล้ว ผมงง เพราะ เบอร์ที่ได้ ได้จากเจ้าหน้าที่เอง เลย ลองนัดเอง พบว่า ปลายสายบอกแบบนี้ เหมือนกัน โทรไป ก็ไม่มีคนรับ ให้เบอร์ใหม่ โทรไป โทรมา จนวนกลับมาที่เดิม

มีApp แล้ว นึกว่า วิธีทำงานจะรวดเร็ว … ช้ากว่าที่คิดมากๆ

ผมโทรจนได้เจอ ตอนมีคนมารับสายแล้ว บอกว่า เป็นแผนกสลายนิ่ว ฟิลผมเหมือนถูกล๊อตเตอรี่ เลย …

คิวได้เดือน กันยาเลยนะคะ มีวันเดียว หลังจากนั้น ไป พฤศจิกาเลย …โห คนไข้ทำไมมันเยอะขนาดนี้

ผมรีบนัด คิวกันยาไว้เลย … หลังนัดได้ ก็โทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ลงบันทึก แล้ว ก็รอ

รอจนถึงวันนี้ แหล่ะ …

กลับมาที่แผนกสลายนิ่ว …เจ้าหน้าที่ต้องการญาติ ผมเลยต้องโทรหา ญาติที่อยู่ในรัศมีโรงพยาบาล น้องหน่อย ใกล้สุดเลย เพราะ ห่าง 950 เมตร … แต่ จังหวะไม่ดี ไม่รับโทรศัพท์ เลยต้องโทรหาญาติ ที่อยู่ไกลมาแทน เพราะ ไม่งั้น วันนี้ เสียเที่ยว
แต่ตอนนี้ ช่วงเลิกงาน รถอาจติด เลยโพสขอบน Facebook มีหลายคนให้ความช่วยเหลือ ต้องขอขอบคุณ Anothai Prachavittayagon Sukrudee Lymsatitaporn Suthep Lymsatitaporn

เจ้าหน้าที่ให้ผมไป X ray ก่อน ขั้นตอนนี้ ไม่ยุ่งยาก เปลี่ยนชุด เข้าห้อง ถ่ายรูปสองแชะ เสร็จแล้ว ค่า ถ่าย 250 บาท

ประมาณสี่โมง เจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่า ดูฟิลม์แล้ว หมอบอกว่า ยิงไม่ได้ เพราะ มองแทบไม่เห็นนิ่ว
ผมงง แล้ว นิ่วไปไหน พยาบาล ไม่ได้ตอบบอกแต่ว่า ไม่ต้องให้ญาติมาก็ได้ ..
มาบอกเอาตอนนี้ นี่มานั่ง หน้าห้องผ่าตัดกันหมดแล้ว …

ผมรอจนหมอเรียก ซึ่งคิวตัวเองแค่ คิวที่สอง แต่ กว่าจะได้คุยก็สี่โมงครึ่งไปละ

หมอเป็น Resident ปีสอง อธิบายให้ฟังว่า ที่ยิงไม่ได้เพราะ ภาพจากฟิลม์ นั้น มองเห็นนิ่วเล็กมาก หมอวัดให้ดูเลย ว่า แค่ สามมิล

ผมบอกว่า ที่มานี่เพราะ หมอวิสูตร รักษาอยู่แปดเดือน และ เห็นว่า ขนาดมันยิงได้ จึงส่งมา แต่ ไม่ใช่ 3 มิล แน่ๆ
หมอเอาภาพจาก CT scan มาดูเห็น ขนาด 7 มิล จริงๆ ผมถามว่า CT หับ X ray อันไหน ดีกว่า หมอบอกว่า CT
“แบบนี้ เราก็ต้องเชื่อ CT ซิ แต่ ทำไมไป X ray” ผมยังคาใจ
“เอาอย่างนี้ วันนี้ เราไม่มีการยิงนิ่วนะครับ เพราะ มองไม่เห็น” หมอบอก ผมก็รับตรงนั้น แต่ ก็ยังคาใจ
” แล้วหมอเขา ไม่ทราบหรือครับ ว่า ส่งมาแล้วอาจจะยิงไม่ได้ เพราะ กล้องมาคนละแบบ ” ผมถาม หมอบอกว่า ก็น่าจะทราบ
“เขาไม่มีเกณฑ์ หรือครับ ว่า เท่าไหร ให้ส่งมา เท่าไร ไม่ต้องส่ง ” ผมถามต่อ พี่คนที่เป็นคนยิง ให้ความรู้มาว่า กล้อง X ray มันจับภาพได้ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นเคสนี้ ปริมาณแคลเซียม ไม่เยอะ เลยไม่สะท้อนออกมาเป็นภาพ

“นิ่วตัวนี้ เป็นนิ่วจากพวกโปรตีนครับ กล้องเลยจะมองไม่ค่อยเห็น ยิงไป ก็จะไม่โดน”

ผมเห็นว่า ค่า X ray แค่ 250 เลย แนะนำ ว่า ในขั้นตอนการวินิจฉัย ควรจะส่งไป X ray ด้วยเลย เพราะ ถ้า เห็นว่า กล้อง ตรวจไม่เจอ ก็จะได้ ลดงาน ตรงแผนกนี้ ไป ไม่ต้องมานัด รอเป็นเดือน ๆ แล้ว ก็ต้องทำงานอะไรอีกเยอะ แยะ โดยไม่ได้อะไรเลย นอกจากนั่งคุยกัน
“คนไข้ จ่ายอีก 250 ได้อยู่แล้ว ” ผมบอก คุ้ม เมื่อต้องแลกกับ การเสียเวลาทั้งหมด
“แต่ ผลเราต้องใช้วันต่อวัน ” พยาบาล ข้างๆ เปรยขึ้นมา ผมเลยบอกว่า นี่เป็นการ X ray เพื่อ คัดกรอง ไม่ใช่เพื่อการรักษา แค่ยิงภาพทีเดียว ก็สามารถ ลดภาระงาน แบบนี้ ให้แผนกสลายนิ่วได้เยอะ เลย และ คนไข้ ก็จะได้ รับการรักษาที่ถูกต้องด้วย

หมอพยักหน้า บอกเห็นด้วยกับ ระบบ ผมเลยฝากหมอ ไปคุยกับ คนที่เกี่ยวข้องละกัน คงไม่ได้ช่วยผมหรอก เพราะ ไม่ทันละ แต่ จะช่วยคนได้อีก เป็นร้อยเป็นพันเลย งานก็ลดลงด้วย

“อีกอย่างคือ ต้องรบกวนหมอไปปรึกษาหมอวิสูตร โดย มีผล CT ล่าสุด ไปหารือ ด้วย เพราะ ที่เอามาให้ผมดูนั่นตั้งแต่ กุมภา เจ็ดเดือนที่แล้ว โน่น” ผมแนะนำหมอ
“คนไข้ อยากมาเมื่อไหร่ครับ ” หมอถาม
“ผมว่า ตามหลักวันนี้ ต้องรักษา ดังนั้น คงต้อง ASAP แล้ว น่าจะดีนะครับ ” ผมบอกหมอ หมอเลยให้เดินไป แผนก CT เพื่อนัดอีก

ทำทุกอย่างเสร็จวันนี้ ค่า X ray 250 ค่าหมอ 100 บาท

กลับมาที่รถ รปภ มายืนรอเลย บอกว่าครั้งหน้ารบกวน ให้ไปจอดที่จอดด้านหลัง ฟังดู คือ นอก โรงบาล
“ผมโดนเจ้านายบ่นเลย ที่ให้มาจอดตรงนี้ ” รปภ บอก ใจนึงก็สงสาร แต่ เมื่อกี้ ก็นิกว่า ก็อยากเห็นเราเป็น Grab เองนี่หว่า

ใจสงสารมากกว่า เลย ยื่นนามบัตรไป บอกว่า ถ้าหัวหน้าบ่น แล้ว ไม่มีงาน โทรหาผมนะ เดี๋ยวหางานให้ทำ

กำลังจะ start รถ เสียงเพลงเคารพธงชาติขึ้น หกโมงพอดี รปภ ยืนตรง ตะเบ๊ะ ผู้คนหยุดยืน ตรง เคารพธงชาติ

หมดไป สามชั่วโมง ถึงจะ ไม่ได้รักษา แต่ ได้เห็นคนยืนตรงเคารพธงชาติ ก็อดยิ่ม มีความสุขไม่ได้

ใครอ่านถึงตรงนี้ ท่านสมาธิดีมาก อย่าลืม Comment ไว้นะครับ

ตกขบวน (Part II) ============


ดอนที่แล้ว https://bit.ly/2qcai3K

ผมมาเริ่มงานใหม่ในที่เก่า .. เพราะนายเก่า ขอให้มาช่วยงานอีกเดือน …
งานที่ไม่เกี่ยวกับ อะไรที่เคยทำมาเลย ยิ่งรู้ว่าเป็นการเขียน application บนมือถือยุคนี้ ผมงี้ยิ่งมองไม่ออกเลยว่าจะทำยังไง…

ไอ้ที่ถืออกจากบ้านทุกวัน กดๆ จิ้มๆ ทั้งๆที่มันไม่มีปุ่ม แล้วอยู่กับมันวันล่ะเป็นชัวใมงนี่ล่ะ ..

ลูกพี่ นายผมคงคิดอะไรในใจ ปกติเรื่องวิสัยทัศน์นี่ผมเชื่อนายครับว่ามองไกลกว่าเราแน่นอน .. คิดตามให้ทันก็เก่งแล้ว คนเราได้รู้ได้เห็นต่างกัน จะให้มองเหมือนกันได้คงยาก

จะได้เรียนกับอาจารย์ที่ให้มาจัดคอร์สอนก็ปาเข้าไปวันที่ 8 โน่น.. ทำอะไรดีอีกตั้งเจ็ดวัน มารายงานตัววันแรก ลูกพี่นายผมก็ให้เขียน app เลย ..

“ป๋อง.. มันมี project นึง ช่วยทำอะไรที่มันช่วย นับเวลาที่เหลือ ของโปรเจคให้หน่อย ซิ .. เอาอะไรที่มันง่ายๆ นะ .. ” ลูกพี่สั่งเร็วปรื้อ ตาม style คนคิดเร็ว

“ค..ครับ.. ” ผมตอบไป ความมั่นใจน้อยมาก เพราะ เอาง่ายๆ แค่เอา ตัวหนังสือ มาขึ้นบนจอตอนนี้ ยังไม่แน่ใจจะทำได้เลย ก่อนหน้านี้สองวัน ไปส่องดู youtube ดูวิธีการทำ ดูอย่างเดียว ไม่ hand on ไม่ได้ ทำตาม มันทำได้ แต่ มันจะไม่จำ

วันนั้นรายงานตัวนิดเดียว ออกมาก็เปิดเครื่องลองทำเลย .. ทำยังไงให้มันนับวันถอยหลัง .. คิดเลขง่ายๆ ก็ เอาวันเสร็จ มาลบกับวันนี้ ได้เท่าไหร่ ก็แสดงไป

นั่งดูครึ่งวันผมเริ่มคลำถูก หายไปหลายชั่วโมงเพราะเปิด app ผิด ไปเปิดตัว cross function ที่ออกแบบไว้ใช้ ทั้ง iphone และ android รู้สึกทำไมมันใช้ยากจังวะ .. กว่าจะรู้ว่า ผิด app ก็ล่อเอาเหงื่อตก .. ดันชื่อ app เดียวกัน ซะด้วย เป็น Thunkable X กับ Thunkable Classic ดูมัน…. !

พอมาถูก app โอว.. เร็๋วขึ้นเยอะ เพราะ ตัว classic พัฒนามาสองปีละ ใช้ง่ายกว่า X นะ .. อันนี้ความรู้สึกเริ่มๆ ผมนะ .. ตอนคล่องแล้วอาจจะมองเหมือนกันก็ได้

เย็นวันนั้น app แรก ของผมก็เสร็จ เอาไปอวด ลูกพี่ได้ .. กะว่าจะได้คำชมซะหน่อย .. ลูกพี่ บอกมาเลยว่า .. บอกวันออกมาดีละ .. แต่ อยากให้มันออกมาเป็น นาที..

ดีมะ… ? ลูกพี่ถาม .. ไม่ยักถามว่าทำได้มะ .. คงมองว่ามันง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

แต่สำหรับผม .. เริ่มจะยากละ .. เพราะ จักรวาลนี้ ใหญ่เอาเรื่อง …. แต่ก็หลุดปากไป…

ได้ครับ…

ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน… ยังเป็นวลีที่ใช้ได้กับผู้หลักผู้ใหญ่ ได้ดีเสมอมา…

กลับมาบ้านนึกต่อเลยว่าจะทำยังไง?

#lowcode
#thunkable

ถ่ายทอดเรื่องราวสนุกๆ ในการทำงาน ช่วยจุดเปลี่ยนของผม ในระยะเวลา 1 เดือน
ตอนที่แล้ว https://bit.ly/2qcai3K
ติดตามตอนต่อไป …..

มันเหม็น…


วันก่อนทำงานจนมีดค่ำ เกือบสี่ทุ่มแล้ว… น้องวิศวกร ใจดี ย่องเข้ามา พร้อมมันบด KFC กล่องเบ่อเริ่ม

“พี่เริง…ฝากมาครับพี่” น้องหมายถึง พี่เริง HR ผู้น่ารัก… คงสั่งไก่ มาเลี้ยงลูกน้อง แล้วเห็นเรานั่งทำงานอยู่เลยส่ง บรรณาการเข้ามา ให้คลายหิว

 

ปกติก็ไม่ชอบทานมันบดครับ ..แต่ครั้งนี้ โซ้ย วูบเดียว หมดเลย … ต่ออายุได้ไปอีก มื้อ …กินเสร็จ ก็ทิ้งไว้ในถังขยะที่โต๊ะ ลีมไปว่าจะไม่เข้า Office สองวัน เพราะต้องไป สัมมนา ที่ พัทยา

 

กลับมาวันศุกร์ สัมผัส แรก ที่แตะจมูก คือ ..กลิ่นเหม็น มหาศาล … อบอวล อยู่ในห้อง

ภาพมันบด KFC เมื่อสามวันก่อนลอยมาเลย .. รีบเปิดถังขยะดู … หลักฐานหายไปแล้ว แต่ ยังส่งกลิ่นทิ้งไว้ ให้ระลึกถึง

…ตอนกิน ไม่เห็นมันเหม็นแบบนี้ นี่หว่า…

 

ผ่านไปครึ่งวัน… ตอนบ่ายทานข้าวกลับมา น้องยุ้ย เลขา บอกว่า เดี๋ยวจะมีช่างมา “เก็บศพ” หนู ออกไป

บ๊ะ… มีการฆาตกรรม เกิดขึ้นกันด้วย แล้วรู้ได้ยังไงหว่า

“สมหมายเค้าดมค่ะพี่ …เค้าว่าหนูตาย  …” สมหมายคือ แม่บ้าน ของ Floor ที่ ญ. 2 นี่แหล่ะ

สักพักมีเจ้าหน้าที่เดินมา รื้อของที่วางขวางช่องแอร์ เปิดช่องแอร์ หยิบถาด ออกมา

…ข้างหน้าผมมันเป็น จานดักหนู แบบที่เป็นกาว พร้อมกับ หนู อ้วนๆ (ก่อนหน้านี้มันคงไม่อ้วนขนาดนี้) เพราะกำลังอืดได้ที่ สองตัว …

 

วิเคราะห์แล้ว (ก็เพิ่งทราบเหมือนกัน) ว่า ปกติ ที่ office จะมีหน่วย มาดักหนู ในวันเสาร์ และ มาเก็บ ถาดดักหนูในวันอาทิตย์

จุดที่ดักในห้อง พี่ป๋อง คงจะเป็นจุดซ้อนเร้นครับ … ตอนมาเก็บ ถาด เลย ลืมเก็บไป

เรื่องก็เลยแดง ตอนกลิ่นกระจาย ออกมานี่แหล่ะ

 

งานนี้ได้ Feedback ให้บริการกลางให้ทราบ ไปแล้วล่ะครับ …เห็นหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก…

เหอ เหอ

 

14 Feb 2011 …วันวาเลนไทน์ วันแห่งการแบ่งปัน


14 Feb 2011 …วันวาเลนไทน์

วันนี้ได้รับเชิญจาก คณะทำงานการบริหารจัดการความรู้เครือซิเมนต์ไทย (SCG) ให้มาช่วยแชร์เรื่อง KM หรือ Knowledge Management กันครับ …

จริงๆแล้ว เรื่องของการทำ KM นั้น มี อยู่ทุกที่แหล่ะครับ แต่ บางที เราก็ไม่ทราบเท่านั้น ว่านี่เป็น KM หรือไม่ …

ผู้รู้บอกว่า KM ที่ครบสูตร จะต้องมีองค์ประกอบสามอย่าง

การดึงความรู้ออกมา
การกำหนดวิธีการที่จะนำความรู้ไปจัดเก็บ
ตัวจัดเก็บความรู้
การนำความรู้มาใช้
มีสี่อย่างนี้ ก็ถือว่า ครบการทำ KM แล้ว …

พี่ป๋องเอง ทำงานด้านวิศวกรรม วันๆ ก็ ยุ่งอยู่กับงานโครงการต่างๆ ครับ เยอะไปหมด …รายละเอียด ด้านเทคนิค ยุบยั่บ จน แทบไม่อยากจะจำ ดังนั้น การจัดการเรื่องความรู้ เหล่านี้ จำเป็นมากครับ …

..ไม่งั้น ได้ลืมกันหมด…

มากันพร้อมหน้า

มากันพร้อมหน้า

วันนี้เลยได้โอกาสมา สรุป เรื่องราวที่ได้ทำมา แล้วมาเล่าในบรรยากาศ “เข้าครัว”

เอ้า เข้าครัว จริงๆ ครับ เพราะ งานนี้ เค้าเรียกว่า งาน KM Kitchen

คนมาบรรยายก็เลย ต้องแต่งตัวเป็น ชุด ครัว ด้วยเหมือนกัน

จะดังคนเดียว ก็จะน่าเกลียด เลย ชวนน้องๆ มาด้วยครับ

น้องบิ๊ก วรสิทธิ์ เตชะวีรพงศ์ คนนี้ หัวเรีี่ยวหัวแรงหลัก ครับ เพราะ เป็น IT Engineer จาก บางมด จบมานี่ ที่หนึ่งของ ภาคเลยนะครับ ไม่ได้เก่งอย่างเดียว ครับ หน้าตาดีต่างหาก

น้องต้อ สมนึก พัฒนชัย คนนี้ก็ วิศวกรไฟฟ้า วงเล็บ หนุ่ม ไฟแรง ลูกเล่นลูกฮา เยอะครับ เห็นแววดี เลยให้มาออกงานใหญ่ดู เป็นสีสัน ของ งานเลยทีเดียว

น้องยุ้ย ประภาพร บำรุงประเสริฐ เลขาคนเก่ง ของพี่ป๋อง งานนี้ มีการต้องซ้อม ตามบทที่ร่างขึ้น ก็ได้น้องยุ้ยนี่แหล่ะ คุมการซ้อม แถมยังเป็น ผู้ดำเนินรายการ แย่งงาน ?นกรฟะนพ ประจำงาน ซะเลย

น้องเปิ้ล พนิดา ชระนันทพงศ์ น้องเปิ้ล ดูแลด้าน IT เหมือนกัน วันนี้ ฉากสวยๆ ด้านหลัง ก็ ฝีมือ น้องเปิ้ลทั้งนั้น

ส่วน Modulator หลัก อีกสองคนคือ น้องจิ๋ม รัชดา อุปถัมภ์ และ น้องตั๋ง อนันต์ ทัพมงคล ช่วยเติมเต็มงานให้สมบูรณ์

งานนี้ ให้เวลากันสองชั่วโมงครับ ตอนแรก คิดว่า คงจะพูดจบก่อนเวลาแน่ๆ เพราะ ตอนซ้อม ครึ่งชั่วโมงก็หมดแล้ว

ที่ไหนได้ เอาเข้าจริงๆ สองชั่วโมง นี่ ต้อง ตัดบท ให้เลิกกันเลยทีเดียว

พูดจบในชั่วโทงกว่าๆ แต่ ตอนถามคำถามกันนี่ ซิ ยาววววว

แสดงว่าคนให้ความสนใจกันดี ..

อาจจะเป็นเพราะ แปลกที่มีการจัดเรื่อง องค์ความรู้ ให้เข้ากับการบริหารงานโครงการ และ มีการนำเอา IT app อย่าง Microsoft Sharepoint เข้ามาใช้ ก็เป็นไปได้ คนเลยสนใจเยอะ

อย่างไร ก็ตาม งานนี้ ก็จบลงด้วยดี ทั้ง ๆ ที่มีเวลาซ้อม กับน้องๆ น้อยมาก

อย่างนี้ ต้องกล่าว เหมือน ตอน ปิดงานครับ …ว่า

ก็ต้องขอขอบคุณ และ ปรบมือให้กับทีมดังๆ ตรงนี้ อีกครั้ง ครับ

Trip 04/2010 Springfield @ Sea หัวหิน


4 Feb 2010 วันนี้ ที่ทำงานเค้า ให้มา Forum กันครับ …

มากันไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ แค่ ตรงหัวหินนี่เอง

ทำงานที่มันเป็น Group นี่ คนจะเยอะมาก บางที พอคนรู้ว่าทำงานที่นี่จะถามว่ารู้จักคนโน้น คนนี้มั๊ย…

บางคนถ้าได้ทำงานด้วยก็จะรู้จักครับ แต่ บางคน ต้องบอกว่า …อาจจะไม่

ก็ ทั้งเครือฯ นี่ สองหมื่นเจ็ดพันคนแน่ะ …คงรู้จักกันได้ไม่หมด ล่ะครับ

เอาเป็นว่า ทั้งเครือ ไม่รู้ แต่ ใน”หวี ” เดียวกัน นี่ ให้รู้ก็น่าจะพอ

หวี หรือ กลุ่มที่ว่า เค้าเรียกว่า SCG MAT (อันหลังย่อมาจาก Material น่ะครับ ซึ่งหมายถึงวัสดุก่อสร้าง)

ปีนึง ก็จะมีงานที่ให้มาเจอกันซะที จะได้ คุ้นหน้าคุ้นตา และ ลูกพี่ใหญ่ ก็ ถือโอกาส พูดคุย เล่านโยบายให้ฟังซะเลย

ดีเหมือนกันครับ เพราะ จะได้ ชิวๆ กันบ้าง หลังจาก ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันมาทั้งปี

พอคนมาเยอะๆ ที่พัก มันเลยมักไม่ค่อยจะพอ …งานนี้ เลยต้องแบ่งเป็นสองที่ครับ

ที่แรก ก็ เป็นที่ spring field Golf & SPa ก็ตามชื่อครับ ว่า มีสนาม Golf ด้วย หลายคนคงเคย มาตีที่นี่ เพราะ สนามสวยมาก

ส่วนอีกที่ ก็ สำหรับคนไม่เน้น ตี Golf ก็จะได้เน้น วิว ที่นี่ชื่อเดียวกันครับ แต่ ห้อยท้ายไม่เหมือนกัน

ที่นั่นชื่อ Springfield @ Sea ครับ

ที่พัก อยู่ใกล้ร้าน Seafood ชื่อดังที่ชื่อ สังเวียน น่ะครับ หลายคนอาจเคยไปมาแล้ว

Trip นี้  ไปมานานแล้ว แต่ เพิ่งจะ ถึงคิวได้เขียนถึง …(ช้าไปร่วมปี)  แต่ก็นึกถึงบรรยากาศได้

ยามเย็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่ พร้อม ระบบน้ำ นวดในสระ ทำเอา นั่งแข่น้ำได้เป็นชั่วโมงๆ เพราะเพลิน

วิวกลางคืน ก็ดูสวยครับ เพราะ มีการประดับไฟ ส่องอย่างสวยงาม

มุมมองจากห้อง ถือว่าดีเลยเพราะ เห็นทั้งสระ และ ทะเล ภายในห้องเป็นพื้นไม้ และมีห้องน้ำ แบบกระจก …

ห้องที่แพงที่สุดที่นี่มี สระน้ำส่วนตัวในห้องด้วยครับ … ลักษณะเป็นป้านสองชั้น นอนชั้นล่าง ส่วนชั้นบน เป็น ห้องนั่งเล่น

สวยดีครับ ถ่ายรูปมาไม่มาก ก็ถือโอกาส เอารูปมา เก็บไว้หน่อยละกันนะครับ

นับเป็นอีก Trip ของปี ที่ สนุก สนาน บานใจมาก อีก Trip หนึ่ง

PongRoofman


25 Jan 2010 ตอนที่ทำงานอยู่เขมร มีเพื่อนชาวเขมรคนนึง ชื่อ ยู อัน  ที่ทำงานอยู่บริษัทโฆษณา เพื่อนของพี่เอ ช่อง 5

ยูอัน กับพี่ป๋องเจอกันไม่บ่อย แต่ก็คุ้นหน้าตากันเป็นอย่างดี

ด้วยความที่ยูอันเป็นคนคุยสนุกจึงรู้สึกสนิทก้ันได้ไม่ยาก  แต่ต่างคนก็ต่างก็มีปัญหาเหมือนกันอยู่่อยางคือ เรื่องชื่อ

เพราะต่างคนต่างจำชื่อของอีกคนไม่ได้

ชื่อ ยู อัน …มันก็ไม่ใช่ว่าจำยาก แต่ เจอกันทีไร ก็นึกชื่อ เค้าไม่ออกสักที

ชื่อ ป๋อง ก็ง่ายมาก แต่ ยูอันเอง ก็จำกันไม่ได้สักที .. เหมือนกัน

สงสัยคงเป็นที่ต่างคน ต่างภาษา คนนึงไทย คนนึงเขมร

แต่สิ่งนึงที่ ยูอัน “จำ” ได้ตลอด ก็คือ พี่ป๋อง ทำงานที่เกี่ยวกับ หลังคา…

ทำอะไรไม่รู้หรอก แต่ ก็คงเป็นหลังคา (Roof) นี่แหล่ะ ดังนั้น ชื่อ ที่ ยูอัน จะเรียกพี่ป๋องทุกครั้งที่เจอคือ “Roofman”

พี่ป๋องก็เลยเอา ชื่อ “Pongroofman.” มาใช้ตอนเล่น Net ซะเลย

นั่นแหล่ะที่มา…

แต่ที่จะเล่าวันนี้ นั้น เป็นเพราะพี่ป๋องต้องมาเป็น Roofman จริงๆ ซะแล้ว

วันนี้มีการเติมเต็มคำว่า Roofman เพราะต้องมาเรียนมุงหลังคากันจริงๆ

:ซึ่งจะว่าไปแล้ว งานมุงหลังคานี่เป็นงาน ศิลปอย่างหนึ่งนะครับ ถ้าหากอยากให้งานออกมาสวยๆ ก็ ต้องตั้งใจดีๆ ครับ

งานสอนมุงหลังคานี่ เค้ามีโรงเรียนสอนกันเลยครับ อยู่ที่ สระบุรี โน่น

เวลาเรียนก็ไม่ต้องกลัวร้อน เพราะอยู่ใต้หลังคา ขนาดใหญ่อีกที

มุงหลังคา ใต้หลังคา ว่างั้น…เหอ เหอ คงไม่งงนะครับ

ก่อนเรียนแนะนำตัวกันเรียบร้อยก็มีการยืดเส้น ยืดสายกัน (นึกถึงเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอเลย)

จะได้พร้อมสำหรับ ภาคปฏิบัติ

หลังคาเดี๋ยวนี้ มีหลากลอน หลายสี มีทั้ง แบบเป็นลอน และ แบบผิวเรียบ ซึ่งได้เรียนทั้งหมดในสองวันนี้ …

เรียนกันทั้งทฤษฏี และ ปฏิบัติ มีสอบกันด้วย …ผล..ก็ ผ่านหมดครับ …

ตอนนี้ ก็ใข้คำว่า Pongroofman อย่าง ภาคภูมิใจ…

ใครสนใจอยากมาเรียน ก็ติดต่อเข้ามาได้นะครับ ได้ยินว่าไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างไร

www.cpacroof.com

Hot Chair


ไม่ใช่ Menu จานเด็ด ที่เสริฟ ระหว่างเรียน MDP หรอกครับ

แต่เป็น “ศัพท์” ที่ เป็นที่กล่าวขานกัน ไม่แพ้ “Cold Call” ที่เขียนเล่าไว้เมื่อตอนที่แล้ว

คำกล่าวนี้ Professor Aron ได้กล่าว “ขู่” ไว้ตั้งแต่วันแรก ว่า เราจะมี “HOT Chair” ใน Module สุดท้าย ที่ Aron เป็นคนสอนเอง

SDC13009

วิธีการก็จะมีการ “คัด” (Aron บอกว่าใช้ Program ทำการ Random) ออกมา

บางคนก็ว่า เป็น “หวยล๊อก” เพราะว่า มันจะคละๆ กันไป

แต่ไม่ว่าจะคัดด้วยวิธีใด จำนวนผู้ที่ถูกคัดนั้น หลายคนอยู่เหมือนกันครับ

มากพอที่ “เรา” ก็อาจจะเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่จะต้องไปนั่ง “HOT Chair” ได้ด้วยเหมือนกัน

ปีนี้ รุ่น 25 ได้รับโชคนี้เป็นพิเศษ …เพระเดิมทีมีการ Set เวลาอยู่ให้ในช่วงท้ายของตอนบ่ายๆ

กลับกลายว่า โปรแกรมการสอนก่อนหน้า ถูกเลื่อนขึ้น เพื่อให้มีเวลาในการ “เชือด”  เอ้ย…ทบทวนสิ่งที่เรียนมา ในช่วงบ่ายทั้งบ่ายเลย…

ดังนั้นจำนวนคนที่จะได้เข้าร่วม พิธีกรรม นี้ ก็จะมีมากขึ้น…

…ลุ้นได้อีก…

และนี่จะเป็นครั้งแรกทีมีการถ่ายทอดช่วงของการทำ HOT Chair ผ่านทาง Blog

หลังจากเรียน Module OE-IM กันเสร็จ ภายในห้องก็ถูกจัดฉากครับ

ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่า จะมีการดับไฟ แล้วเอา Sportlight ส่องไปตรงจุด HOT Chair

เข้าใจว่าไฟมีนคงจะแรง เลย ลดความแรงของไฟเหลือแค่ Neon (ก็ ฟลูออเรสเซ่นต์ นั่นแหล่ะครับ)

SDC13020

การคัดของ Aron จะคัด “คนที่จะนั่งเก้าอี้” และคนที่ต้องยิงคำถาม ซึ่ง กลุ่มหลังจะมี 4 คนครับ

รายชื่อ LIst ตามหมายเลขแต่ละคนครับ ที่แปลกคือ พี่ป๋องได้เบอร์ 17 และ แถวเดียวกันที่นั่ง อยู่ข้างๆ จะมีทั้ง เลข 7, 27, 37 และ 47

…เป็นเรื่องบังเอิญที่ประหลาดมาก…

พอบอกเชื่อเสร็จ คนที่จะได้รับเกียรติ นั่ง Hot chair ก็จะประจำตำแหน่ง ซึ่ง Aron จะบอกว่า

“You have five second before we start the first question…”

เค้าคงกะให้ “คนตอบ” กล่าวอะไรก่อน หรือ เตรียมตัว น่ะครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ได้พูดอะไร… เพราะคง “ตื่นเต้น”

หลังจากนั้น คนแรก ก็เริ่มขึ้นครับ

โอ้ว …ไม่น่าเชื่อครับ จับคนแรก ได้เบอร์ 7  เป็นหนุ่มหล่อ ตระกูล “ต” ครับ

พี่เต้ย ของเรานี่เอง …คนแรก  จะดูเครียดนิดครับ

พี่เต้ย...ดูเครียดใช้ได้เลยครับ SDC13023

IMG_8064

แต่ด้วยฝีมือ และ ประสบการณ์ คำถามที่ถูกยิงเข้ามา กลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ ไปครับสำหรับพี่เต้ย

 

หลังจากนั้น ก็ มีอีกหลายต่อหลายคนครับ ที่เรียงกันเข้ามาว่าจะเป็น พี่มนคนสวย จากกระดาษ

พี่มล คนสวย ...นิ่งมากครับ มืออาชีพจริงๆ IMG_8072

พี่อิ้ว…จากปิโตร

พี่อิว ...บอกว่า ส.บ.ม. (เสียว...บ่อย...มาก)  IMG_8075

พี่ตุ้ย …จาก SCG MAT คนนี้พูดน้อย มา Hot chair เลยโดนซะ

พี่ตุ้ย...ปกติเงียบๆ งานนี้ Show ฉะฉานครับ IMG_8083

คนต่อมา หยั่งกับ ฟ้าประทาน

Aron เลือก หนุ่มรูปงาม ขวัญใจ MDP25 เป็นคนแรกครับ …พี่ Krit (…The professsor…!!!) นั่นเอง

IMG_8099

เสียงฮีอฮา กรี๊ดกร๊าด จาก สาวๆ และ หนุ่มๆ ดังทั่ว Hall ทำให้บรรยากาศ ดูผ่อนคลาย…

พี่ Krit นี่แน่นอนจริงๆ แค่แก ขยับตัว

…ความตื่นต้นก็เกิด…

น้องต้อม …พี่น้องตระกูล “ต” จากวางแผนอีกคน

น้องต้อม...เลือกได้ถูกคนแล้ว...ดีนะน้องต้อม ไม่ถามกลับ... IMG_8110

รายต่อมาพี่พี ครับ …รายนี้ มาไกล จากเวียตนาม

 

 

มีน้องต้อม ก็ต้องมี พี่”ต้อม” จาก SCG MAT… ฮาได้อีก

พี่ต้อม...งานนี้โดยแต่ ต.เต่า

ผ่านไปแล้ว 7 คน ไม่มี เบรคครับ งานนี้ บรรยากาศ ยังดู ลึกลับ อึดอัด กันต่อไป

 SDC13035

คนนี้จับภาพมาไม่ชัด แต่รูปใกล้เลยรู้ว่าเป็นพี่พี มาไกลจาก เวียตนามเลยเชียว

 พี่น้อง...มาดมั่นใจครับ...IMG_8126

ดร.เป็ด จาก CPAC ก็ไม่รอดครับ …โดนเหมือนกัน

 ดร.เป็ดIMG_8134

พี่โจ้ประกาศิต จากทุ่งสง โดนเหมือนกันครับ ตอบคล่องแคล่ว ครับรายนี้…

IMG_8146

พี่ทูล รุ่นใหญ่ เลยรอดยาก …รายนี้ออกไป มี ปล่อยมุข ขำก่อน โดนยิงครับ

IMG_8158

พี่เจี๊ยบ…จากกระดาษครับ ไม่ค่อยเครียดครับ ดูจากรูป

 พี่เจี๊ยบIMG_8161

สุดท้าย ปิดงานด้วย สาวสวยครับ พี่อึ่ง…จาก CPAC นี่เอง

 IMG_8177

พี่อึ่ง  บรรยากาศ น่าตื่นเต้น...

ประสบการณ์ HOT Chair เป็นตำนานครับ …. อ่าน Blog คงไม่มันส์ เท่า กับโดนเอง

โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง คนที่ต้องไปนั่งบน Chair และ ต้องใช้ความรู้ที่เรียนมาทั้งหมด ตอบคำถาม ที่เรียนมา…

 

…เสียดายจัง ฮิ พี่ป๋องไม่โดน …เหอ เหอ

Cold Call…!


คนเราถ้าบุคลิคดี หน้าตาดีนี่มีชัยไปกว่าครึ่งครับ

จะพูดจะจาอะไร ก็ดูน่าเชื่อถือซะ…

ทำงานมาก็เจอคนมากมายครับ พอจะดูออก ว่าคนไหน รู้จริง คนไหน มั่ว …

พวกแม่นนี่ ก็ แม่นจริงๆ ส่วนพวกมั่วเนี่ย ก็แล้วแต่ประสบการณ์ … แต่ ส่วนใหญ่ ถ้ามั่ว ก็ไปได้ไม่นานครับ เดี๋ยวก็จอด

โดยเฉพาะ ตอนไปเจอคนรู้จริง แล้ว ยังจะมั่วต่อ เนี่ย …อาการหนักเลยทีเดียว

ตอนมาเรียนหนังสือ นี่ก็เหมือนกันครับ

สมาธิ มีส่วนสำคัญยิ่ง ยิ่งถ้า กินอิ่มมาแหมบๆ หนังตามีได้หย่อนกันบ้าง

ดังนั้น วิธีที่ Profressor บางท่านใช้ และ ได้ผลดี คือ สอนไป ถามไป…

Professor ที่ ชอบใช้ "อาวุธ" นี้ มักจะไม่ยืนสอนนิ่งๆ

แต่จะเดินไปสอนไป หันมา แว๊บ มี "ยิง"

ตอนเรียน MDP เนี่ย มันมีอยู่ 7 Module เหมือนที่เคยเล่าให้ฟังครับ

ภาพความน่ากลัวระหว่างเรียนคือ Professor จะถามนักเรียนบ่อย

ถามอะไรน่ะเหรอครับ ก็ ถามตาม เอกสารที่อาจารย์ส่งให้มาอ่านก่อนนี่แหล่ะครับ (มีมากกว่า 1,000 หน้า)

คือถ้าอ่านมาแล้วเข้าใจ มีความรู้ และ ตอบได้ ก็ไม่เป็นไร

 

แต่ถ้าอ่านไม่ได้ล่ะ…

 

อืม…คงไปไม่เป็นเลย…มั่วก็ไม่ได้ เพราะ Professor รู้จริง

 

อาจารย์มีศัพท์เฉพาะ สำหรับเรื่องนี้ ครับ เรียกว่า Cold Call

 

ที่เรียกอย่างนั้น เพราะอาจเป็นว่า …เรียกเมื่อไหร่เป็นหนาววววว….

 

ตอนมาเรียนก็ไม่ทุก Module หรอกครับ เจอ Cold call จริงๆ แค่ สอง Module เท่านั้นเอง…

แต่ความเชื่อที่ว่า เจอแล้วจะหนาว ก็ทำให้ นักเรียนโข่ง แบบพี่ป๋อง ตั้งใจอ่านหนังสือมากกว่าเดิมเยอะเหมือนกันครับ

 

เรียกว่าเป็น อานิสงค์ครับ เพราะ ต้องอ่าน Case มาก่อนไม่งั้น Professor Call มา แล้ว …อาจจะหนาวได้

 

…กลัว หนาว ครับ ไม่กลัวร้อน…..

ก็มีเพื่อนหลายคนเหมือนกัน ที่ ไม่ได้อาน Case มา หรือ อาจจะอ่านไม่หมด

แถมตอนมาเรียน อาจจะสมาธิ ไม่ดี โดนตามเรื่องงาน …อย่างนี้ Professor จะ ชอบมาไล่ถามครับ

ก็ไม่ถึงกับ ตกเก้าอี้หรอกครับ แต่ก็เล่นเอา เข็ดไปเลยเหมือนกัน

 

=================================================================

ตอนนี้หายหนาวแล้วครับ เพราะเรียนจบแล้ว

ไว้คงมาเล่าบรรยากาศตอนเรียนจบแล้วให้ฟังอีกน่ะครับ

เป็นความทรงจำที่ดีทั้งนั้น

เป็นข่าว…ลงหนังสือพิมพ์ซะแล้ว…!


ตอนเด็กได้อ่านหนังสือพิมพ์ทุกวันครับ เพราะ พ่อจะรับมาอ่านที่บ้าน

บ้านเมือง

จำได้ว่าชอบ หนังสือพิมพ์ “บ้านเมือง” ที่สุด เพราะมีหน้าการ์ตูนเต็มหน้า

ได้อ่าน “ริน ตินติน” ทุกวัน

rintintin

 

โตมาอ่านข่าวจาก web ครับ หนังสือพิมพ์ ไม่ได้รับแล้ว

แต่ก็ได้อ่านบ้างเวลาไปนั่งกินข้าวแกง

เรื่องหนังสือพิมพ์กับพ่อ เนี่ย พ่อเค้าชอบมากครับ

วันไหน มีถ่ายรูปแกลงหนังสือพิมพ์ล่ะก็ได้อวดกันทั่วเมือง

 

พ่อได้ลงหนังสือพิมพ์ สองสามครั้งครับ …เรื่องที่พ่อเค้าช่วยชาวไร่ชาวนา หรือ พรรคพวกทหาร เรียกร้องสิทธิ์ โดยยื่นหนังสือให้ รัฐมนตรี อะไรประมาณนี้

พ่อคงตัดเก็บไว้แหล่ะครับ ไว้วันไหน บุกห้องพ่อ แล้วคงได้อะไรดีๆ มาเขียนอีกเยอะ

แต่รูปเจ๋งสุด ลงเยอะสุด คงเป็นรูปสุดท้าย วันที่พ่อโดนรถชนนั่นแหล่ะครับ

เป็นรูปที่พ่อไปงานวันทหารผ่านศึก….

นั่นแหล่ะเป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อได้ลงหนังสือพิมพ์

 

 

คราวนี้มาถึงตาพี่ป๋องมั่งแล้วครับ

ได้มีโอกาสลงหนังสือพิมพ์กับเค้าเหมือนกัน

ก็เป็นอานิสงค์ จากการที่ได้มาเรียน MDP นี่แหล่ะ

มีอยู่วันที่มีนักข่าวากหนังสือพิมพ์หลายฉบับมาสัมภาษณ์

เลยต้องตัดเอาที่มีรูปตัวเอง มาเก็บไว้หน่อยครับ …

 

อันแรกเป็นของประชาชาติธุรกิจครับ

ประชาชาติ

ประชาชาติ

ฉบับที่สองเป็นของ The Nation ครับ

 The nation

ที่เห็นนั่งหล่อ อยู่สองคน ก็คือ "พี่ผัว" จากสิงค์โปร์ และ "พี่เต้ย" หนุ่มหล่อ ไฟแรง จากวางแผนฯ

ชื่อพี่"ผัว" นี่มีขำครับ เพราะ เวลาสาวๆ เรียกจะเขินมาก ….ประมาณว่า "ผัวคะ" "ผัวขา" อะไรประมาณนี้

The nationThe nation

ฉบับอื่นๆ ที่ลงแต่เรื่อง ไม่มีรูป หรือไม่ได้อ้างถึงพี่ป๋อง  ก็ คงไม่ได้เอามาแปะไว้นะครับ

นี่ถ้าพ่อได้มาเห็น คงแอบปลื้มเล็กๆ อยู่เหมือนกันนะเนี่ย ….

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา…


25 July 09

Tibby น้อย นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ผ้าที่ พี่รปภ. ของโรงแรมมาคลุมให้อยู่สามอาทิตย์กว่าแล้ว…

ที่จอดรถที่นี่ไม่มีหลังคาครับ มีแต่ร่มไม้

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ที่หัวหินนี่แล้วครับ…

SDC12941

เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการมาเรียนหนังสือที่นี่อยู่ร่วมเดือน …ดีจริงๆ ครับ

[จริงๆ แล้ว ยังเรียน MDP (Management Development Program) ยังไม่จบหรอกครับ เหลืออีก Module]

อยู่ที่นี่ก็มีความสุขดี เพราะ บรรยากาศดี กลับไปบ้านก็มีความสุขอีกแบบ..

ไปเจอเพื่อน เจอน้องๆ เจอคนที่เรารัก…

SDC12963 SDC12967 SDC12972

มาหัวหินเที่ยวนี้ นอกจากเรียนกันหัวจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว ในช่วงเบรคระหว่าง Module ก็พอจะมีโอกาสได้เข้ามาเที่ยวตัวเมืองหัวหิน กับเค้าบ้างเหมือนกัน

ที่ชอบไปเหลือเกินคือ ร้านไอติม IL Gerato Italiano (Gerato แปลว่า ไอติม เอ้ย ไอศครีม ในภาษาอิตาลีครับ) รสชาติก็อร่อยดี แต่ ราคาสูงเอาการอยู่

SDC12908 SDC12939 SDC13012

ส่วนร้านอาหาร ก็ มีเยอะ จนไปไม่หมดหรอครับ ทั้ง บ้านอิสระ บ้านกลางวัง บ้านอยู่เย็น ปลาทู แซ่บอีหลี ชมทะเล เจ้เขียว ร้านเปิ้ล ลาแม (ชอบเรียกผิดเป็น “ลาเมีย”) let’s see ยายย่า Your place หินน้ำทรายสวย Rich Roccia เพลินวาน เรียกว่า เยอะ เยอะ จนทานไม่ทั่วเลย

SDC12687 SDC13605 SDC12711

ก็มีเวลาช่วงระหว่าง module นี่แหล่ะครับ ได้มาเปิดหูเปิดตาบ้าง

วันสุดท้าย พวกเราก็ไปร่ำรากับที่ร้าน ชมทะเล ครับ …

ทุกคนก็ พูดแสดงความประทับใจใน คอร์สนี้กัน..ทั่วถึง

ทีมงาน มีของขวัญมามอบเป็นการขอบคุณพี่ป๋องด้วยครับ …เป็นตุ๊กตาเงาะสีดำปากแดงโร่…(พยายามนึกความหมายเหมือนกัน แต่นึกไม่ออก)

น้องแหม่ม มาบอกภายหลังว่า มันน่ารักดี ….แค่นั้น

นั่งกันสักพัก ก็แยกย้าย …สายหนึ่งไปกินไอติม ต่อ สายนึง ไป karaoke ส่วนอีกสายก็ไป หินสวยฯ

นอนหลับฝันดีกันทุกคน

SDC12757 SDC12747 SDC12754

 

วันสุดท้าย เป็นวันที่ได้ไปเดินเล่น ชายหาด หัวหิน สูดอากาศบริสุทธิ์ จนเต็มปอด….

กะเอาความรู้สึกนั้นกลับมากรุงเทพฯด้วย…

SDC12782 SDC12836

มุ่งหน้ากลับบ้านด้วยหัวใจ ปรีเปรม…

 

…กลับบ้านมันดีอย่างนี้นี่เอง….