Posts tagged ‘พ่อ’

วันนี้วันเกิดพ่อ


อายุ…วรรณโณ ..สุขัง..พลัง..

พี่ป๋อง ละสายตานจากพระ ..หันมองไป..เห็นพ่อ อมยิ้ม..

….

งัวเงีย ลืมตามา …ฟ้ายังมืดเหมือนทุกวัน ..

เมื่อคืน เพลียสนิท หลับไปตั้งแต่ ยังไม่ห้าทุ่ม …เพราะ ปั่นจักรยาน เมื่อวานหนักไปหน่อย

…รวมๆ แล้วคงร่วม สี่สิบกิโล..

นอนเร็ว มันก็เลยตื่นเร็ว ตาม …หยิบโทรศัพท์ มาดู …อ่ะ เพิ่งตีสี่ครึ่งเอง…นอนต่อดีกว่า ตีห้าค่อยตืน ..

พลันนึกขึ้นมาได้ว่า …วันนี้วันสำคัญ นี่ .. ตาโต ขึ้นมาวาบนึง…เสียงแว่วๆ ดังมา..

“ตื่น..ตื่น..อ้าย ตูด …ฮัด ชะ ล่า … ตื่นได้แล้ว …แท๊ด แธ่ แท๊ด แธ่ ….” เสียงพ่อ นี่นา ลีลาการปลุก แบบแตรทหาร แว่วเข้าหู เลยสปริงตัวขึ้นมานั่ง เห็นพ่อ นั่งรออยู่ที่ปลายห้อง…

“ตื่นได้แล้ว ตื่นเช้าออกกำลัง ไปใส่บาตร….” พ่อบอก แล้วก็หันเดินออกไป

พี่ป๋อง คว้าเสื้อผ้า สวมใส่ แล้ว ควบจักรยาน ออกมา …พ่อยืนยิ้มเผล่ รออยู่แล้ว

เจ้าจักรยานสีส้ม คันเก่งของพ่อ ..สภาพยังสวย.. ไม่รู้พ่อไปขนมาตอนไหน ..พ่อกึ่งยืน กึ่งประคอง รออยู่

“อากาศ เย็นๆ แบบนี้ กำลังดี …ไม่ร้อน …” พ่อบอก ..พ่อเป็นคนขี้ร้อน หนาวๆ แบบนี้ บางที พ่อ ยังถอดเสื้อเฉย

สิ้นเสียงพ่อ …พี่ป๋องรู้สึกถึง อากาศเย็นขึ้นมาทันที เสื้อ แขนกุด คอวี แค่นั้ คงอุ่นไม่พอ

พ่อ..ลูก สองคน ปั่นจักรยานกันไป วันนี้ ออกเช้ากว่าทุกวันแค่สิบนาที แต่ รถน้อยลง อย่างเห็นได้ชัด

ฟ้า ยังมืด รถไม่เยอะ ขี่กันสบายๆ  พ่อ ปั่นไปเรื่อยๆ เหมือน ปั่นช้าๆ แต่ ก็วิ่งไปเร็วกว่าเราเยอะ ปั่นตามแทบไม่ทัน

ปั่นข้ามทางรถไฟ มาตรงถนนบางซ่อน …หักเลี้ยวซ้าย เข้าซอย ตอนนี้ ในซอย มันมืด ฟ้าก็ยังไม่สาง อยู่ๆ ไออุ่นๆ ไหลริน ออกจากตา…

ปั่นจักรยานไป …มองเห็นพ่อ ปั่นอยู่ตรงหน้า …ภาพนั้น ชัดยิ่งกว่าอะไร ..แม้จะเป็นตอนฟ้าสาง

น้ำตา ไหลไม่หยุด…ไม่ได้เสียใจ ..แต่เป็นน้ำตา แห่งปิติ ..ที่ชีวิต นี้ได้เกิดเป็นลูกพ่อ…

พ่ออยากให้เราเป็นคนดี อยากให้มีงานการดีๆ ทำ …

ถึงวันนี้…ผมคงไม่ได้ทำให้พ่อผิดหวัง….

…..

ฟ้าเริ่มมีแสงเรื่อๆ

พี่ป๋องกับพ่อ ปั่นข้ามคลอง ฟ้า สวยงามจริงๆ

ร้านขายข้าวแกง หน้า SCG เปิดแล้ว …มีคนมาทานบ้าง ประปราย เพราะยังเช้าอยู่

พี่ป่องจอดจักรยาน ..ถามเค้าว่า  มีพระผ่านมา ทางนี้บ้างมั๊ย แม่ค้าใจดี บอกว่า มี แต่ ต้องรอหน่อย

“…เด่ี๋ยวท่านก็มา … ”

ด้วยความใจร้อน รอไม่ไหว ปั่นไปข้างหน้า กะว่า ใกล้วัด โอกาส เยอะกว่า …ออกตัวไม่ถึง ยี่สิบเมตร ก็เห็นพระรูปหนั่งเดินมา รับกลับรถ กลับไปที่ร้านข้าวแกง

“มาแล้ว …พระมาแล้ว …” แม่ค้า อมยิ้ม

อาหารชุดง่ายๆ ถึงแม้ จะไม่ใช่ ไข่พะโล้ ของโปรดพ่อ ..แต่วันนี้ ..เต็มไปด้วยความตั้งใจ ..ต่างไป จากวันอื่นๆ

พ่อเคยพูดเล่นๆ แซว พี่ป๋องที่ไม่ค่อย ใส่บาตร ว่า …”พ่อตายไป สงสัย ต้องอดตาย อีกรอบ …เพราะเอ็งไม่ค่อยใส่บาตร”…

พ่อเกทับ เพราะช่วงนั้น พ่อใส่บาตรทุกว้น … แต่ ก็ทำให้ พี่ป๋องเริ่มสนใจทำบุญกับเค้าบ้าง

ทำแล้ว ก็รู้สึกดี …รู้สึกได้ให้ ได้รำลึกถึงคนที่จากไป

เพราะวันนึง เราก็คง ต้องกลายเป็นคนที่จากไปอีกคน ….

ปัจจัย อาหาร ใส่ไปในบาตร จนครบ

เสียงพระสวดให้พร …..ตบท้ายด้วย

อายุ…วรรณโณ ..สุขัง..พลัง..

พี่ป๋อง ละสายตานจากพระ ..หันมองไป..เห็นพ่อ อมยิ้ม..

วันนี้วันสำคัญ..


21 Dec 2010

เสียงโทรศํพท์ ในห้องแผดเสียงด้วย สำเนียงที่ไม่คุ้นเคย…ตอนตีห้าสิบห้า

..เสียงโทนเดิม ดังซ้ำไปซ้ำมา แต่ไม่มีทีท่าว่า ชายสองคนที่นอนหลับไหล จะขยับตัว ลุกขึ้นมา…

เสียงโทรศํพท์เงียบไป…เป็นสัญญาณของการยอมแพ้ ..แพ้ต่อความขี้เกียจ ..ขี้เกียจตื่นของเจ้าของห้อง

…พี่ป๋องเริ่มขยับตัว สมองส่วนหลังเริ่มทำงาน หลัง จาก Boot เครื่อง จนความจำเลือนลางเริ่มนึกได้ว่านอนอยู่ที่ไหน พลันเป็นต้องสะดุ้ง สปริงตัวออกจากเตียง

เฮ้ย นี่มัน โรงแรม นี่หว่า ไม่ใช่บ้าน …แล้ววันนี้ นี่มันวันสำคัญซะด้วย…

วันสำคัญ วันสำคัญ…ใช่วันสำคัญ

โดดคว้า ผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำ ผ่าน ชายอีกคนที่นอนหลับอยู่อีกเตียง อย่างไม่สนใจ…

…เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญ…

ทุกๆปี วันนี้…วันที่ 21 จะต้องมี กิจกรรม พิเศษ กับ พ่อ …

แม้ว่าทุกวันจะมีกิจกรรมอยู่แล้ว  แต่ วันนี้ จะต้องมีอะไรมากกว่า ปกติ …เพราะ มันเป็นวันพิเศษ

ใช่ครับ มันเป็นวันเกิดของพ่อ ..ซึ่งนับวัน ยิ่งพ่ออายุมากขึ้นมากเท่าไหร่ พ่อก็ยิ่งอยากให้คนสนใจพ่อมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้น พอถึงวันเกิดพ่อ พ่อก็จะต้องตั้งตารอ ว่าวันนี้ จะมี Surprise จากลูกชายคนนี้หรือไม่ ..

ดังนั้น ไม่ว่าจะยุ่งยังไง ยังไง ก็ ก็ต้องคิดมุขใหม่มาเล่นกับพ่อเสมอ…

แอบซื้อของที่ชอบมา วางรอไว้ตอนพ่อตื่นบ้างล่ะ

พาพ่อไปเที่ยว ไปดูหนังบ้างล่ะ

…เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญ...

หลังจากพ่อโดนรถชนเมื่อหลายปีก่อน จนต้องเป็นเรื่องเป็นราว ขึ้นโรงขึ้นศาล จนวันนี้ คดีความเรื่องนี้ ก็ยังไม่จบ

จำเลย …คนที่ชับรถคนนั้น ยังคงต้องรับผลที่ได้ทำไว้ ถึงแม้ว่า ศาลชั้นต้น จะได้ตัดสินไปแล้วว่าผิด แต่ อาการดื้อ ไม่ยอมรับ ทำให้ ต้องพิจารณาต่อถึงศาลอุทธรณ์

คนที่เคยขึ้นโรงขึ้นศาล ก็คงทราบว่า คดีความปกติ จะใช้เวลานานมาก

ไม่ใช่เป็นเพราะศาลทำงานช้า แต่น่าจะเป็นเพราะ จำนวนคดี ที่มีอยู่แต่ละวัน เทียบกับ จำนวนเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ที่อาจไม่เหมาะสมกันก็ได้ …

แต่ถึงจะใช้เวลานานเท่าไหร่ มันก็ต้องมีวัน…วันที่ ศาลอุทธรณ์ ตัดสินคดี ..ซึ่งบังเอิญ มาเป็นวันนี้พอดี

ทำให้วันนี้ โดยหน้าที่จะต้องไปขึ้นศาลที่นครปฐม ..อีกครั้ง

ภาวนาของให้ ศาลตัดสินให้ พ่อชนะ ชนะสมชื่อ ในวันนี้ ..

…เพราะวันนี้ เป็นวันสำคัญ…

พี่ป๋องขับรถออกมาจากโรงแรมแล้ว …เปิดกระจก สูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่

อากาศตอนหกโมงเช้า ที่ หัวหิน นี่มันสบายจริงๆ แม้ท้องฟ้ายังมืดสนิท แต่ ก็จินตนาการได้ว่า ท้องฟ้าจะใสแค่ไหน

เมื่อคืนมี Party กว่าจะแยกย้ายกลับไปนอน ก็เกือบตีสอง

การที่ตอนนี้  สมองมันจะมึนๆ เบอร์ๆ บ้างก็เป็นเรื่องปกติ

ตอนนี้ไม่ได้ออกมาคนเดียว แต่ สะกิดเอา ดร.พิสิทธิ์ ที่นอนร่วมห้องให้ออกมาด้วย

ชวนว่ามาทำบุญด้วยกัน …ขับรถไปหัวหิน เพื่อไปใส่บาตร

ตั้งใจใส่บาตรให้พ่อ …ปีนี้ ถึงแม้มุขที่จะเอามา Surprise จะดูจืดชืด และ คาดเดาได้ …แต่ก็เป็น Surprise ที่ทำได้ดีที่สุดในวันนี้ ..

…ทำได้ดีที่สุดแค่นี้จริงๆ…

ก็วันที่พ่อไม่ได้อยู่กับป๋องอีกแล้ว…

มีเพียงความทรงจำเท่านั้น …แต่ก็เป็นความทรงจำที่ชัดแจ๋ว ชัดจนแยกกับของจริงแทบไม่ออก

และมันจะชัดมากที่สุดในวันนี้

….เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญ…

..

รถสีน้ำเงิน พาสองหนุ่มวิ่งฉิวออกมาจาก โรงแรม Sheraton หัวหิน ..มุ่งหน้าสู่ เขา หินเหล็กไฟ

พระอาทิตย์ยามเช้าดูสวยงาม….ปลุกเมืองนี้ให้ตื่นจากการหลับไหล

พระหลายองค์ยังคงบิณฑบาตรอยู่ในตลาด..

ข้าวและปัจจัยถูกถวายให้พระ สังเกตว่าพระจะมาตามลำพัง ไม่เห็นลูกศิษย์เดินตาม

คำสวดให้พร เปล่งออกมาจากปาก สายตาเหลือบมองเห็นพ่อยืนอยู่หลังพระ

พ่อยิ้มอย่างมีความสุข ปรากฏเป็นภาพลางๆ ก่อนจะจางหายไปตามแสงแดด…

มีความสุขจริงๆ วันนี้ …

…วันนี้เป็นวันสำคัญจริงๆ ...

สุชสันต์วันเกิดครับพ่อ…รักพ่อมากครับ..

ป๋อง

“ของเล่น” ที่พ่อฝากมา


2 Jan 2010

..อยากได้…
ความรู้สึกนี้ เกิดขึ้นตอนที่เดินผ่าน ร้านขาย มอเตอร์ไซต์ เมื่อวาน…

เมื่อวานนี้ หลังจากตัดสินใจ “หักดิบ” เอาชนะอาการบ้านหมุน โดยการ ออกเดินจากบ้านไปที่ทำงาน …ระยะทางประมาณ สิบกิโล.. ช่วงก่อนถึง สามแยกเตาปูน สายตาก็ “ป๊ะ” เข้ากับ รถมอเตอร์ไซต์คันนึง ที่จอดอยู่หน้าร้าน นัดพบเตาปูน

นี่เป็นครั้งที่สองหลังจาก เห็นครั้งแรก ในงาน Motorshow

ความที่ตัวเอง เป็นคนที่ชอบ ชับ และ ขี่ มาตั้งแต่เด็ก ..พอเห็น รถ หรือ มอเตอร์ไซต์สวยๆ ก็เลยอดใจไม่ได้ เป็นต้องเข้าไป ลูบๆ ตลำๆ

เจ้าคันนี้ ก็เช่นกัน ..ด้วยความที่ออกแบบ ออกมาดู อวกาศหน่อยๆ บวกกับความเป็น Scooter โดย ทำให้ตัวออกดูป้อมๆ ทำให้ มันดู เหมาะกับคนตัวใหญ่ อย่างพี่ป๋อง มากกว่า รุ่นอื่นๆ ที่เคยออกมา…

ขี่ได้ไม่น่าเกลียด …ว่างั้นเหอะ

สอบถามราคาเรียบร้อย ..แพงเอาเรื่อง รุ่นๆ อื่นๆ อย่าง
Fino หรือ Wave เค้าขายกัน สามสี่หมื่น ..เจ้่า Honda PCX นี่ ล่อไป เจ็ด….

เจ้านี่ถึงกับสะดุด

แต่อย่างว่าแหล่ะ …เวลาอยากได้อะไร ก็เห็นอะไรเป็นดีไปหมด ..

เจ้าราคาที่ว่าแพง ก็ น่าจะเป็นเพราะ อุปกรณ์ต่างๆ ให้มาเยอะ … มีแม้กระทั่ง ระบบกันขโมย

แต่นี่แค่เดินผ่านร้าน ดังนั้น อย่าวู่วาม …ต้องยืนรอให้น้ำลายไหลเสียก่อน …ค่อยซื้อ …
ครั้งนี้ ก็เช่นกัน แวะเข้ามาดู เฉยๆ ใจอยากได้ก็จริง แต่ ก็ ติดอยู่สองข้อ…(แถวบ้านเรียก “ข้ออ้าง”)
อันแรก …จะขี่มอเตอร์ไซต์จริงๆ เหรอ รถเก๋ง ก็มี จักรยาน ก็ ถีบ เอา มอเตอร์ไซต์อีกครับ …จะจัดคิวยังไง …เยอะเกิน
อันที่สอง … แฮะ แฮะ ถึงจะขี่เป็นตั้งแต่ ป.4 ขายังเขย่งไม่ถึง แต่ จนป่านนี้ ก็ยังไม่เคยมี ใบขับขี่กับเค้าสักที ขี่รถในกรุงเทพฯนี่ โดนตรวจกันบ่อยด้วย เดี๋ยวจะ ซวยเอา

แค่สองเหตุผล ก็ ทำให้ลังเลได้ล่ะ …

มานึกๆ ดู Man and Toy นี่ แยกกันไม่ได้ได้ครับ  คงจะเป็นอย่างนี้ไปจนตายแหล่ะครับ …ต้องหาอะไรมา “เล่น” สนุก เรื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจดูอายุตัวเองเลย

อะไรที่ตอนเด็กๆ หรือ หนุ่มๆ ไม่ได้ทำ ก็มาทำเอา ตอนนี้แหล่ะ

ตอนเด็ก เห็นอะไร อยากได้ไปหมด แต่ไม่มีตังส์

ตอนนี้พอมี”ตังส์” แต่ กลัวว่า จะไม่มี “แรง”

คิดไปคิดมาก็นึกถึงพ่อ ….
เด็กๆ พ่อจะซื้อของเล่นให้บ่อยๆ …ชอบอะไรก็ซื้อให้ แต่ มีเงื่อนไข ว่าต้องตั้งใจเรียน
ถึงตอนนี้ พ่่อไม่อยู่แล้ว แต่ ก็ยังฝากของให้ตลอด…
ไม่ได้ฝากใครมา แต่ ฝากไว้ที่ตัวเรา …โดยการเคี่ยวเข็ญ ให้เราตั้งใจเรียน
“จบมามีการมีงานทำ.. จะได้มีชีวิตที่ไม่ลำบาก “.. พ่อพูดอยู่เสมอๆ
ถึงตอนนี้ ก็พอมีกำลังที่จะซื้อของเล่น ของที่อยากจะได้ …
เวลาซื้ออะไร ก็จะนึกถึงพ่อ แบบนี้เสมอ…
ขอบคุณมากครับพ่อ …แล้วผมจะตั้งใจเรียนครับ…

เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิต

เรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข ไร้ความทุกข์

จะได้เป็น คนที่ Happy ได้ตลอดเวลา ได้เหมือนพ่อไง ครับ..

เฮ้อ…วันนี้คิดถึงพ่อจัง…

ทหารผ่านศึก


3 กุมภา 2009

ภายในห้องเล็กๆของพ่อ.. พี่ป๋อง เงยหน้าขึ้นมาเห็นปฎิทินจีน

ปฎิทินที่ฉีกไว้จนถึงวันที่ 3 กุมภา วันทหารผ่านศึก

IMG_5621

วันที่ซึ่งตรงกับวันนี้ ..เพียงแต่ว่าเป็น ของสองปีที่แล้ว …

ตัวหนังสือบอกว่าเป็นปี 2007 (พ.ศ. 2550) เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ

พ่อเป็นคนที่ชอบปฏิทิน ช่วงปลายปี พ่อจะตระเวณไปหาเพื่อน เพื่อไปเอาปฏิทิน

พ่อจะเอาปฏิทินสวยๆ มาให้ดูทุกปี  ช่วงหลังๆ สังเกตว่าพ่อจะชอบปฎิทินจีนมากเป็นพิเศษ ปีไหน ๆ ต้องขอให้เอามาฝากทุกปี…

“อย่าลืม…เอาปฏิทินมาให้พ่อนะ ปีนี้…” พ่อบอกอย่างนี้ทุกที เมื่อย่างเข้าเดือนธันวา

เคยถามพ่อ…ว่าทำไมถึงชอบปฏิทินจีน รูปสวยๆ ก็ไม่มีเหมือน ปฏิทินแบบอื่นเค้า ..พ่อ ยิ้มๆ แล้วก็บอก…

“ปฏิทินนี้ มันมีใบ้หวย บอกไว้ทุกงวด เอ็งดูซิ มันจะมีเลขอยู่ตรงนี้ …” พ่อ พูดพลาง ชี้ให้ดู ตัวเลขพิศวง ที่เชื่อว่า คนสองคน ไม่มีทางเห็นเลขเดียวกันได้เลย

“มันไม่ได้มีให้ดูทุกวันนะ …มันจะมีเฉพาะ วันหวยออก ..แสดงว่าเป็นเลขเด็ด…” พ่อบอก ประกายตา บ่งบอกถึงความหวัง…

“แล้วมันแม่น เหรอพ่อ …” ถามไปเพราะสงสัยว่า อย่างนี้ คนพิมพ์ คงจะรวยเละถ้าแม่นจริง

“ก็มีถูกบ้าง เฉียดบ้าง ..แต่พ่อบอกถูกไปเยอะแล้ว …” พ่อบอก แต่ ครั้งนี้ หลบตา ซึ่ง พี่ป๋องว่า คงจะถูกจริง แต่น่าจะเป็นถูกกินซะมากกว่า

พ่อเป็นทหาร ความมีวินัยของพ่อ ทำให้ปฎิทินจีนจะโดนฉีกไว้ทุกวัน

จนกระทั่งวันนี้ วันที่ 3 กุมภา ปี 2007…

ซึ่งหลังจากวันนั้น ปฎิทินจีนเล่มนี้ก็ไม่โดนฉีกเอีกเลย

….

ปี 2007…วันที่ 3 กุมภา ย้อนไป ก่อนหน้านี้ สองปี

พ่อคึกคักเสมอเมื่อถึงวันนี้ …เพราะวันนี้จะมีงานแต่เช้า ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ

พ่อมีเพื่อนเยอะ และ เพื่อนที่ไปรบด้วยกันที่เวียตนาม ก็ยังติดต่อกันเป็นประจำ เรียกได้ว่า Network พ่อนี่ เหนียวแน่น แข็งแรง ถึงแม้ พ่อจะไม่มี Facebook ให้เล่น

ทุกครั้งที่พ่อ มาร่วมงานทหารผ่านศึกที่อนุสาวรีย์ชัย พ่อต้องติดกล้องมาด้วยเสมอ…เอามาถ่ายรูปเพื่อนๆ

เป็นกล้องแบบใช้ฟิลม์ แบบเก่า ตัวไม่กี่ร้อยบาท ไม่มี focus ไม่มีซูม กดอย่างเดียว…ภาพออกมาชัดหรือไม่ ให้ลุ้นเอา

เคยคะยั้นคะยอพ่อ ให้เปลี่ยนมาเล่น กล้อง digital เพราะตัวเองก็มีอยู่หลายตัว ภาพออกมาก็ดีกว่า ถ่ายได้เยอะ ดูรูปก็ได้ พ่อส่ายหน้าบอกไม่เอา ใช้ยาก…น่านซะงั้น

พี่ป๋องไม่เข้าใจพ่อก็ตรงนี้ ..ไม่รู้จะยากตรงไหน … ก็กดเหมือนๆ กัน

พยายามจนแล้วจนรอด พ่อก็ไม่เปลียนมาใช้กล้อง digital เสียที …คิดว่า มันคงไม่ได้ยากอย่างว่า แต่ เป็นเพราะความ”ดื้อ” ของพ่อมากกว่า

แต่มารู้เอาทีหลังว่า ..พ่อไม่อยากเอาของแพงๆ มาใช้ ..เพราะ กลัวว่ามันจะเสีย..

ทุกครั้งพ่อจึงต้องหิ้วเจ้ากล้องฟิลม์นี่มางานด้วยเสมอ

วันนั้นพ่อ ถ่ายรูปเพื่อนๆ มาหลายรูป ทั้งงานตอนเช้าที่อนุสาวรีย์ฯ และ งานเลี้ยงต่อที่ราบ 11

ความปิติใจวันนี้ ทำให้ พ่อไม่กลับบ้านทันที พอลงจากรถเมล์ พ่อก็ปั่นจักรยานไปนครชัยศรี …คนละทิศ กับ ทางกลับบ้าน

….พ่อก็มุ่งหน้าตรงไปยังร้านถ่ายรูป ที่อยู่ในเมือง ..คงอยากรีบเอารูปไปล้าง  แล้วจะได้ส่งให้เพื่อนดูเร็วๆ

…นั่นเป็นวันสุดท้ายที่ความรู้สึกดีๆของพ่อ จะถูกจดเอาไว้…

…”เอี๊ยด…….” เสียงเบรค ลากยาว จากรถ Honda Accord ทะเบียน นครราชสีมา ดังยาวสนั่นไปทั่วท้องถนน

พ่อนอนนิ่ง ลมหายใจ แผ่วๆ อยู่ ไม่ไกลจาก จักรยานคู่ชีพ

เจ้าของร้านถ่ายรูป วิ่งออกมา เขย่าตัวพ่อ…ร้องเรียก “ลุงๆ…เป็นอะไรหรือเปล่า…”

พ่อไม่ขยับตัว  พ่อเกือบถึงร้านถ่ายรูปแล้ว ..เพียงแค่ไม่กี่ก้าว เท่านั้นเอง..

…เสียง ไซเรน ดังมาแต่ไกล…..

เช้าวันรุ่งขึ้น กลางเล่มของหนังสือพิมพ์ ปีนี้พิเศษกว่าทุกปี เพราะ มี สกู๊ปพิเศษเรื่องวันทหารผ่านศึก

รูปพ่อ ตอนไปร่วมงาน ขึ้นหลากลางหน้าเลย

DSCN1257 DSCN1260

พ่อหล่อและเท่ห์มากในชุด ทหาร

ถ้าพ่อไม่ล้มไปเมื่อวาน วันนี้พ่อคงวิ่งเอาหนังสือพิมพ์มาอวดเพื่อนทั้งวันแน่ๆ

นึกถึงหน้าพ่อ ที่ดีใจ ยิ้มแก้มปริ ทั้งวัน …

แต่ เสียดาย…เสียดาย…ที่พ่อไม่ทันได้ดู…

เพราะสมองของพ่อ ..ไม่รับรู้ …เรื่องราวใดๆ เสียแล้ว

…..

พี่ป๋องรู้ว่าสมองเป็นส่วนสำคัญของร่างกายมนุษย์ แต่ก็เพิ่งรู้ว่า สมองคนเรามัน sensitive มาก

ตอนรถพยาบาลย้ายพ่อออกมาจากโรงพยาบาลนครชัยศรี เพื่อ มาพบกับแพทย์ทางสมอง อาการบาดเจ็บของพ่อหนักมากเพราะเลือดคั่งในสมอง จนพ่อหมดลมหายใจก่อนเข้าห้องผ่าตัด….

แพทย์ที่โรงพยาบาลนครปฐม คุณหมอชัชวาลย์ ท่านเก่งมาก พอทราบอาการท่านก็เตรียมห้องผ่าตัดไว้เลย

“คุณลุง ท่านหยุดหายใจไปสามนาที นะครับ ตอนที่ผมนำคุณลุงเข้าห้องผ่าตัด…อาการแบบนี้ ไม่ดีเลย”…คุณหมอบอก

“ญาติต้องทำใจนะครับ เพราะ จากสภาพคนไข้แล้ว การรักษาพยาบาล ให้รอดชีวิตดูเหมือน มีความหวังน้อยมาก” คุณหมอบอกด้วยเสียงเบาๆ แต่พี่ป๋องปล่อยโฮ เลย

หน้าตาพี่ป๋องตอนนั้น โทรมยิ่งกว่าคนไข้ในโรงพยาบาลเสียอีก เพราะ เมื่อทราบข่าวก็บินตรงจากโตเกียว ลงเครื่องต่อรถ แล้วก็ที่โรงพยาบาลนครปฐมนี่เลย

ความหวังลางเลือนมาก…ที่จะทำให้พ่อรอดในครั้งนี้ได้

แต่ด้วยฝีมือหมอ และ ความอึดของพ่อ ทำให้พ่อ ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

พ่อฟื้นมาด้วยสภาพใหม่ เป็นสภาพคนป่วย ที่ชราภาพ และที่สำคัญ พ่อสูญเสียความจำไป …แทบจะทั้งหมด

หมอชัชวาลย์บอกว่า พ่อเป็นคนแก่ ที่ แข็งแรงมาก จึงฟื้นขึ้นมาแบบผิดปกติ และ มีโอกาสที่อาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น กระบวนการ ฟื้นความจำ จึงต้องทำทุกวิถีทาง ที่จะทำให้พ่อ กลับมาใช้ชีวิตเช่นคนธรรมดาให้ได้

กระบวนการดูแล และ ฟื้นฟู พ่อ ก็ได้เริ่มขึ้น

เริ่มจากหัดพูดก่อน… เพิ่งจะรู้ว่า  สมองมีส่วนที่ประดิษฐ์คำพูดด้วย และ ในตอนแรก เจ้าส่วนนี้ของพ่อ มันเสียไป กว่าจะเริ่มพูดได้ พ่อใช้เวลาเกือบเดือน

พี่ป๋องจำได้แม่นเลย เพราะ พ่อไม่พูดอยู่นาน กว่าจะกลับมาพูดได้ครั้งแรก ก็ในวันครบรอบวันเกิดพี่ป๋องพอดี 25 กุมภา…

ในวันนั้น พี่ป๋องรู้่ว่า ไม่มีของขวัญใด จะดี ยิ่งกว่าครั้งนั้นอีกแล้ว…วันที่พ่อ เริ่มกลับมาพูดได้ …นึกแล้วยังรู้สึกดีใจอยู่เลย

การฟื้นความจำคนเราไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ เพราะ พี่ป๋องก็ไม่รู้ว่าจะฟื้นกันยังไง

ก็เริ่มจาก กิจวัตร ที่พ่อทำเป็นประจำ เพราะ ถ้าพาพ่อไป พ่อน่าจะ นึกๆ อะไรออกขึ้นมาบ้าง

รู้ว่าพ่อชอบไปตลาด วัตถุประสงค์หลัก ไม่ได้ไปซื้อกับข้าว แต่ เข้าใจว่าไปจีบแม่ค้า…โดยเฉพาะ แม่ค้าสาวๆ  ดังนั้นทุกวันเสาร์ วันหยุดพี่ป๋อง ก็จะต้องพาพ่อไปตลาด

ตลาดวัดกลาง ที่นครชัยศรีนี่แหล่ะ …ที่ประจำพ่อ

ไปเจอเพื่อนๆพ่อ  ซึ่งก่อนหน้านี้ เราไม่เคยรู้จัก เพราะ เวลามา ก็ไม่ค่อยได้คุยด้วย พอมาตอนนี้ เลยรู้ว่า พ่อรู้จักคนแทบจะทั้งตลาด

และคนส่วนใหญ่ ก็ รู้จักพ่อดี เพราะ พ่อคุยสนุก  หลายคนไม่ทราบว่าพ่อหายไปไหน นึกว่าย้ายบ้านไปแล้ว พอเห็นพ่อ ก็ปรี่ข้ามาทักทาย ทุกคนตกใจ ที่ เพิ่งรู้ว่าพ่อมีอุบัติเหตุ  เพราะ นี่ก็ร่วมปีแล้วหลังวันนั้น

การเข้ามาพูดคุย จับไม้จับมือ พี่ป๋องสังเกต อาการโต้ตอบของพ่อ ได้ดี และ เชื่อว่าวิธีนี้ ช่วยได้จริง เพราะ ดูเหมือน ภาพเก่าๆ จะกลับมา

กิจวัตรหลังจากนั้น คือ พาพ่อไปเที่ยว ทุกที่ ที่คุ้นเคย ….

และที่ๆที่ สำคัญที่สุด ..ก็ที่นี่ ล่ะ อนุสาวรีย์ชัยฯ.. วันที่ พ่อจะตั้งใจทุกปี ที่จะได้มา

ปีนี้เลยเป็นปีแรกที่ได้ไปกับพ่อ ในฐานะลูกทหาร คนหนึ่ง…

ปี 2008 วันที่ 3 กุมภา …ครบหนึ่งปี พอดี ..สำหรับการเกิดใหม่

วันนี้พ่อตื่นแต่เช้ามืด

พ่อกระปรี้กระเปร่ามาก อาการของพ่อดีขึ้นเรื่อยๆ กลับมาพูดได้ กลับมาเดินได้ โดยไม่ต้องใช้ไม่้เท้า

พี่ป๋องว่า พ่อพี่เป็น ซูเปอร์แมน เพราะ ตัวเองยังไม่เชื่อเลยว่า คนไข้ โคม่าขนาดนี้ จะ กลับมาเดินปร๋อ ได้ภายในปีเดียว

วันนี้พ่อตื่นเช้า เพราะ รู้ว่าต้องไปงานวันทหารผ่านศึก บางคนอาจจะทราบว่า ที่นี่เค้าทำพิธีกันตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

งานเริ่มแต่เช้า จะได้ไม่ต้องกลัวรถติด

DSCN1261

พ่อเอาชุดทหารมาใส่ พ่อทานเยอะ แต่ ก็โชคดีที่ไม่อ้วนจนคับใส่ชุดไม่ด้

ชุดทหารของพ่อนี่ ใส่กี่ครั้งกี่ครั้ง …พ่อใส่แล้วก็หล่อเหมือนเดิมทุกครั้ง

หลังจอดรถที่องค์การทหารผ่านศึก แล้ว พ่อลูกก็พากันเดือนไป

มีทหารมาให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ พ่อดูยิ่งใหญ่มาก เวลามาที่นี่

ตอนเช้า เป็นช่วงของพิธีสงฆ์ ทำบุญ ให้ “ทหาร ผู้กล้ารบ” ที่เสียชีวิตไป

เครื่องแบบสีขาวดูสวยสง่า น่าเกรงขาม

DSCN1266 DSCN1265 DSCN1410

วันนี้ พ่อมาในมาดของ สิบเอก ชนะ วงษ์เกษม ….

มาในฐานะ ของทหารที่ผ่านศึกมาทั้งเวียตนาม ลาว และ เกาหลี

พ่อดูจะคึกคักกว่าปกติ อาการเดินเซของพ่อ ไม่ปรากฏให้เห็นในวันนี้ เลย

ดูเหมือนพ่อจะมีความสุขมากที่ได้กลับมาเจอเพื่อน อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งน้อยคนจะทราบว่า วันนี้เมื่อปีที่แล้ว พ่อ ต้องล้มหมอนนอนเสื่อ พยาบาลรักษาตัวอยู่ถึงหนึ่งปี ถึงได้กลับมาเดินอย่างนี้ได้

DSCN1272 DSCN1275 DSCN1280

เพื่อนพ่อ ที่เราไม่เคยได้รู้จัก ก็ได้รู้จักกันวันนี้เอง..

พ่อบอกว่า เพื่อนเหลืออยู่ไม่กี่คนแล้ว

“เพื่อนกินหายาก เพื่อนตายหาง่าย… เพราะ ตายกันทุกปี” พ่อบอก

เอาเป็นว่า ปีใหนใครหายหน้าไม่มาร่วมงาน เป็นอันรู้กันว่า อาจจะได้ไม่ได้มากันอีกแล้ว

DSCN1277 DSCN1278 DSCN1282

ลมหนาวเพิ่งจะหมด แต่วันนี้ฝนตกลงมาด้วย ทำให้อากาศไม่ร้อน แต่ ก็เล่นเอาเปียก

ทหารบาดเจ็บ และรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล นั่งรถเข็นมาร่วมงาน เปียกปอนไปไม่น้อยเหมือนกัน เพราะ อยู่ในแถว ฝนมาก็หลบไม่ได้

แถวพิธี ทำออกมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย …ตอนนั้นคุณสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี  ก็มาร่วมงานด้วย

ดูแล้ววันนี้พ่อมีความสุขมาก…เพราะ สมัคร ก็เป็นคนโปรดของพ่อคนนึง

DSCN1287 DSCN1288 DSCN1293

เห็นสายตาพ่อแบบนี้ พี่ป๋อง ก็กะไว้ว่าจะพาพ่อไปทุกปีล่ะครับ

ก็อยากได้เป็นแบบนี้ไปอีกหลายๆ ปี….ดีจัง…

….(มีต่อ)

>>>อ่านตอนต่อ ศึกสงบ สงบศึก<<<

Happy Birthday Dady


คุณรู้มั๊ยว่าพ่อชอบอะไร

 

21 Dec 08 ปกติวันนี้ของทุกปี จะต้องไป นอนที่บ้านนครปฐม …

ไปอยู่กับพ่อ ตื่นมาแล้วเจอพ่อ…

ถึงวันเกิดพ่อทีไร พี่มีอันต้องกลุ้มใจเรื่องของขวัญพ่อ

 

เพราะอยู่กันมาตั้งนาน ยังไม่รู้ว่าพ่อ ชอบอะไรบ้าง ...

 

พาไปทานข้าว ถามว่า อร่อยมั๊ย?

พ่อจะบอกว่า “ดีกว่ากินดินหน่อย”

ถามพ่อว่าอยากได้อะไร?

พ่อบอกว่าไม่ต้องซื้อมาหรอก เปลืองตังส์….

ฟังดูเหมือนพ่อ เป็นห่วงว่าเราจะใช้เงินเยอะ แต่ต้องเข้าใจใหม่ เพราะพ่อจะจบลงด้วยประโยคที่ว่า…

 

“เอาเงินมาให้พ่อดีกว่า ไม่ต้องไปซื้ออะไรหรอก…”

 

สุดท้ายก็ไม่รู้อยู่ดีว่าพ่อชอบอะไร…

พ่อเป็นคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันเกิด

พี่ป๋องเลยไม่เคยมีงานวันเกิดตัวเองเหมือนกับใครเค้า จนกระทั่งโต..

จนกระทั่งโตจริงๆครับ …

เท่าที่จำได้ งานวันเกิดครั้งแรก ก็ตอนที่ไปทำงานที่เขมรเมื่อสักห้าปีก่อน นั่นแหล่ะ

สังเกตว่าพ่อเลยจะรู้สึกเฉยๆ กับวันเกิดของตัวเองมาก

ไม่เห่อ ไม่เหมือนเรา ว่า โตขึ้น หนุ่มขึ้นอีกปี

หรือว่าพ่อ อายุเเยอะ หว่า เลยไม่อยากจะนับ

เพราะยิ่งนับ ก็จะยิ่งย้ำว่าแก่ลง…

จำได้ว่ามีสองอย่างที่พ่อ จะทำในวันเกิดคือ

 

ใส่บาตร กับ อักอย่างคือ ทวงโบนัส… โบนัสพิเศษจากพี่ป๋อง

 

ท่าทางพี่ป๋องจะชอบดูหนัง เพราะ ติดจากพ่อที่พ่อจะชอบดูหนัง

ตอนเด็กๆ จำได้ว่า พ่อจะพาไปดูหนังทุกอาทิตย์

นั่งแถวหน้าสุด ตอนแรกเข้าใจว่าพ่ออยากดูชัดๆ

แต่ตอนเหลังเริ่มเข้าใจ เพราะ ตั๋วแถวหน้า สมัยก่อนจะถูก ยิ่งหลังยิ่งแพง ยิ่งชั้นสูงขึ้นตั๋วยิ่งแพงขึ้น

แถวหน้าสุดตั๋ว สิบบาท ใกล้มากขนาดได้กลิ่นจอหนังเลย

สองคนพ่อลูก นั่งดู แถวหน้าสุด ตรงกลาง ด้านซ้าย ที่ประจำ

สมัยก่อนพ่อพาเดินแถบราชเทวี ทุกอาทิตย์ เพราะโรงหนังเยอะ

ไล่จาก โคลีเซี่ยม เพรสสิเด้นท์ แม๊คแคนนา ฮอล์ลีวู๊ด เมโทร พาราเมาทร์

เขยิบมาทางสยาม ก็ ไล่จาก สกาลา ลิโด้ สยาม

เดี๋ยวนี้ เหลือไม่กี่โรงแล้ว

หลังๆ โรงหนังหลายโรงหายไป โรงเล็กลง แต่ พ่อยังชอบให้พาไปดูหนัง อยู่

โปรแกรมไหนเข้ามา แล้วพ่อเจอในโฆษณาทีวี เป็นต้องบอกให้พาไปดู

สุดโปรดของพ่อ คือ หนังสงคราม ยิงกัน ตูมตามงี้ …ชอบมาก

หลังๆ พ่อคงเหนื่อย พาไปดูหนังในโรง  ยังไม่ทันหนังตัวอย่างจบ พ่อ เป็นหลับทุกเรื่อง

พอหนังฉายต้องปลุกพ่อขิ้นมาดู เพราะ เวลาพ่อนอน อาจมีเสียงรบกวน คนข้างๆ ได้

ช่วงหลังไม่ค่อยมีหนังสงคราม เลยไม่ค่อยมีหนังที่พ่ออยากดู

 

ก็เลยไม่รู้ว่าพ่อชอบดูหนังอะไร หลังๆ…

พ่อชอบเที่ยวมาก วันไหนว่างเป็นไม่ได้ ต้องนั่งรถมาเที่ยว

พ่อชอบมาสยาม มาตั้งแต่หนุ่มยันแก่

มันคงมีดีอะไร ของมันแน่ๆ พ่อถึงชอบมา

อีกที่ที่พ่อชอบไป คือ คลองถม เพราะของมันเยอะ และ ไม่แพง

ท่านชอบไปซื้อ ไฟประดับ หรือ เครื่องไม้เครื่องมือ มาเล่น

ใกล้ปีใหม่ที ที่บ้านจะเต็มไปด้วยไฟ เหมือน ห้างจัด mid night sale

ทั้งๆ ที่ไม่เคยจัด party ที่บ้าน

คนขายที่นั่นบอกว่า พ่อมาทุกอาทิตย์

มาเดินจนรู้จักแม่ค้า หลายคน

โดยเฉพาะ แม่ค้าสวยๆ…

 

แต่ก็ไม่รู้สักที ว่าแม่ค้าสวยๆ คนไหน ที่พ่อชอบ…

มาวันนี้ ตั้งใจจะตื่นพาพ่อไปใส่บาตร

พาไปดูหนัง พาไปทานอาหารอร่อย ๆ

อยากพาไปเที่ยวเมืองโบราณ

ไปในที่ๆ พ่ออยากจะไป… พ่อบอกอยากไปเที่ยวเวียตนาม เพราะเคยไปรบตอนหนุ่มๆ

แต่ก็ได้แค่คิด ก็ได้แต่อยาก …

อยากทำก็ทำไม่ได้ ตอนนี้พ่อไปสบายแล้วครับ ท่านอยู่ในที่ๆ ดีกว่าที่ไหนๆ

 

อิ่มโดยไม่ต้องทาน สุขโดยไม่ต้องบันเทิง

 

พ่อคงอยู่ฉลองวันเกิด พร้อมหน้าญาติๆ อีกหลายคน

มานั่งนึกดูว่า ถึงแม้ว่า..ไม่รู้ว่าพ่อชอบทานอะไร.. ไม่รู้ว่าชอบดูหนังแบบไหน

ไม่รู้ว่าพ่ออยากไปเที่ยวไหน

ถ้ามีโอกาสอีกผมจะพาพ่อไปทุกที่ …

เพราะรู้แล้วว่า ความสุขมันอยู่ที่ได้อยู่ด้วยกัน มันไม่เกี่ยวกับปัจจัยอื่นเลยครับ…

วันนี้วันเกิด…ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ พ่อ

 

ป๋องคิดถึงพ่อมากนะครับ .

What the hell is going on…?


20 Aug 2008

เขียนชื่อเรื่องแบบนี้ เพราะ พยายาม หลีกเลี่ยงคำอุทาน ที่ไม่ค่อยจะสุภาพนะครับ

ใครเข้ามาเพราะ อยากรู้ความหมายของคำนี้ คงต้องอ่านไปเรื่อยๆ ก่อน …แล้วคาดว่า จะเข้าใจได้เอง

เมื่อวานนี้ เตรียมตัวกันอย่างดีครับ เพราะกะไว้ว่าจะไปรับพ่อกลับบ้านเสียที

นอนมาตั้งแต่ 8 July มาวันนี้วันที่ 19 Aug แล้ว กี่วันลองนับดูครับ

พ่อนอนดูเพดานกันจนเบื่อแล้ว

ช่วงนี้เอา Tibby ไปทำสีกันชนครับ เมื่อวานเลยกะว่าจะรับพ่อขึ้น Taxi กลับบ้าน ออกจาก Office เลยนั่งเรือมาลงที่ท่าวังหลัง ศิริราช

ลงเรือปั๊ปก็ตรงดิ่งไปร้านขายยาเลยเพื่อซื้อรถเข็นให้พ่อตามคำแนะนำของหมอ

มาได้ความรู้ใหม่กันแล้วว่า ถ้าคิดจะซื้อรถเข็นให้คนป่วย หรือ คนชรา ที่เรียกว่า Wheel chair สักคัน จะต้องมีเงินเริ่มต้นตั้งแต่สี่พันบาท!!!

ก่อนหน้านี้ก็ทำการบ้าน โดยพยายามดูรถเข็นจาก Web ต่างๆ ว่ามีราคาเท่าไหร่ ปรากฏว่าที่มีเห็นๆ ใน Web ไว้นั้นราคาจะเรี่มตั้งแต่ 6,000 บาทครับ คุ้นๆ ว่าร้านแถวศิริราชมีวางขายอยู่ เลยกะว่าจะไปดูแถวนั้น

ตรงไปที่ Fascino ร้านขายยาด้านหน้าโรงพยาบาล ก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะก็มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 3,800 บาท ไปจน สามหมื่น….!

เจ้ารุ่นที่อยากได้ เป็นของ Soma ติดป้ายไว้ 7,500 แล้วลดกันเห็นๆ ให้เหลือ 7,000 บาท รุ่นนี้ดู “โอ” ที่สุดแล้วเพราะ น้ำหนักแค่ 12 Kg ในขณะที่รุ่นเหล็กชุบ ราคาไม่ถึง สี่พันนั้นหนัก 26 Kg.

จ่าย”น้อย” อาจจะต้องแบกกัน “หนัก” หน่อยครับ

“เซฟ” ค่ารถ แต่ อาจต้องเอามา”ซ่อม”ค่าหลังแทน… เหอ เหอ

ตัวอยากได้ “ของหมด” ครับวันนี้ เลยซื้อไม่ได้ ต้องมาซื้อเอาวันหลัง

….

หมอประสิทธิ์ หมอที่เป็นหมอที่ดูแลพ่อ ที่ ตึก OPD นี่ บุคคลิก  อ้วนๆ น่ารักๆ ใส่แว่น พี่ป๋องก็ว่าแกใจดี ดีนะครับ

แต่วันนี้ โขว์ความดุเหมือนกันแฮะ เพราะคุณหมอบอกว่า ต้องมี Wheel chair ก่อนถึงจะให้พ่อกลับบ้าน… ไม่ใช่คำขาด ครับ แต่ บอกมานิ่มๆ แบบนี้

คุณหมอบอกเหตุผลครับ เป็นเพราะ ห่วง และ ไม่อยากให้ พ่อ กลับมาบ้านแล้วต้องอยู่กับที่นอนอย่างเดียว เพราะไม่มีรถเข็นพาไปข้างนอก

หมอยื่นคำขาดพร้อมรอยยิ้มแบบนั้น ลูกชายหัวแก้วหัวขวาน อย่างพี่ป๋องก็ต้องลงไปหาซื้อรถอีกรอบ เพราะ อยากให้พ่อได้กลับบ้าน

สุดท้ายจบลงที่ร้านหัวมุมครับ ด้วยราคา 6,500 รุ่นเดียวกันเป๊ะ

ซื้อเสร็จแบกกลับตึก กันหลังแอ่นเลยครับ หนักเหมือนกันนิ

ออกไปเดินหาร้าน..ต่อราคา…แบกรถเช็นกลับมาตึก 72 ปี น่าจะเสียเวลาไปไม่น้อย

หมอเห็นว่าเย็นแล้ว เลยบอกว่าจะให้กลับพรุ่งนี้แทนละกัน

พ่อเลยต้องนอนอยู่โรงบาลต่ออีกวัน…เป็นวันสุดท้าย

เมื่อวานนี้ ดูเหมือนพ่อจะ ดีใจที่จะได้กลับบ้าน

การพูด ออกเสียงเยอะกว่าปกติ แต่ก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างครับ เข้าใจว่า ส่วนที่ประดิษฐ์คำพูด ของพ่อ อาจยัง Recover กลับมาได้ไม่ดี

แขนขายังอ่อนแรงครับ วันนี้พี่ป๋องเลยบอกให้พ่อออกกำลังแขน เอาไว้ กลับบ้านจะได้แข็งแรงขึ้น พ่อก็น่ารักครับก็ทำตาม ไม่มีอิดเอื้อน…เห็นภาพแล้วดีใจจริงๆ เหมือนว่าพ่อจะรู้เรื่องขึ้นเยอะ

นั่งคุยกันอยู่สักพัก พ่อก็ บอกให้พี่ป๋องไปเรียกรถ Taxi ให้พ่อ เพราะ เห็นนั่งอยู่นานไม่พากลับบ้าน เลยจะกลับซะเองว่างั้น…แปดสิบแล้วยังใจร้อน เป็นวัยรุ่นเหมือนเดิม

เพลินไปกับพัฒนาการของพ่อ เลยนั่งเล่นนั่งคุยอยู่จนสามทุ่ม

ตอนก่อนจะกลับ Paulla หันมาถามพี่ป๋องว่า คุณตาเหมือนจะหายใจแรง…อืม ดูแล้วก็เป็นดังว่าจริงๆ

พี่ป๋องเลยตามพยาบาลมาดู สักพัก พยาบาลเอาเครื่องวัด oxygen มาวัด ซึ่งวัดแล้วค่าต่ำกว่าปกติ…!

ตามคุณหมอเวรเข้ามาดูสักพัก ก็ บอกว่าจะทำการ X-Ray ปอด โดยทำที่เตียงเลย

เพราะเข้าใจว่าพ่อ อาจติดเชื้อเข้าแล้ว

พี่ป๋องกลับก่อนที่ผลจะออกมา เพราะพรุ่งนี้ วันสำคัญ เหมือนกัน เพราะต้องเอางาน ไปเสนอผู้ใหญ่ เตรียมกันมาเป็นเดือน ก็เพื่อ นำเสนอในวันพรุ่งนี้ ต้องกลับไปดูความเรียบร้อยก่อน

มาวันนี้วันจันทร์ที่ 20 วันที่พ่อจะได้กลับบ้านซะที

เช้าวันนี้ถือเป็นวันจันทร์ที่ “ยุ่ง”พอสมควรครับ เพราะ นัด YTM มาซ้อม present กันก่อนรอบเอาจริง ตอนบ่าย ตอน เจ็ดครึ่ง

แปดครึ่งต้องไป Fit and Smart ครั้งที่สาม ที่ ศูนย์กีฬา

บ่ายโมงก็ต้องมี present แล้วมาเลี้ยงปิด คอร์ส กันตอน ห้าครึ่ง เย็นๆ

ระหว่าง ที่กำลังซ้อม อยู่นั้น สายจากโรงพยาบาลก็โทรเข้ามา

“คุณณรงค์ ครับ เราต้องย้ายคุณชนะ เข้าไปรักษาที่ห้อง RCU นะครับ เพราะผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อรุนแรง”…พี่ป๋องอึ้ง นึกอะไรไม่ออกเลย เมื่อคืนจะกลับบ้านอยู่แล้วนี่หว่า

“อยากให้ญาติมาดูอาการครับ เพราะ คนป่วยอาจหัวใจหยุดเต้นได้ตลอดเวลาครับ” …

พี่ป๋องงงมาก …มันอะไรกันวะเนี่ย

================================== ต้องตามดูกันต่อ ครับ ว่า อาการพ่อจะเป็นอย่างไร …

สำหรับผู้ที่มาหาความหมายของคำนี้ครับ

What the hell is going on = นี่มันเป็น “ห่า” อะไรของมัน แนี่ย