Posts tagged ‘ขอนแก่น’

ช่วยน้อง สอนเรา: ผีเสื้อที่บอบบาง


จิตใจที่เข้มแข็งภายใต้ร่างกายที่บอบบาง
=========================
ผมรับทราบจากผู้ใหญ่บ้าน ว่ามีน้องที่เป็น “เด็กดักแด้” อยู่คนนึง ตอนแรกนึกว่ายังเป็นเด็กเล็กๆ

พอได้เจอกับน้อง จึงรู้ว่า น้องโตเป็นสาวแล้ว …ผมขอเรียกเธอว่า น้องฟ้า ละกันนะครับ

น้องฟ้า อายุ 23 ปี แล้ว .. เป็นเด็กดักแด้ตั้งแต่เกิด ผมเองลองค้นดู จึงพอทราบ ถึงที่มาของโรคนี้อย่างคร่าวๆ

โรคนี้เป็นโรคที่สืบกันทางกรรมพันธุ์ที่ผิดปกติ มีทั้งกลุ่ม Ichthyosis group (อิก-ไท-โอ-ซิส) และ Epidermolysis Bullosa (EB) อันแรกพบไม่บ่อย ส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มหลัง

ความผิดปกติของเด็กดักแด้จะอยู่ที่เซลล์ผิวหนัง ปกติเซลล์ผิวหนังจะแบ่งตัวและเคลื่อนตัวขึ้นมาเปลี่ยนเป็นหนังกำพร้า และหนังกำพร้าจะถูกย่อยให้ละเอียดลงและหลุดออกไปเป็นหนังขี้ไคล แต่ในเด็กดักแด้ชั้นหนังกำพร้าจะไม่ยอมย่อย จะแข็งติดอยู่ ก็เลยทำให้หนาขึ้นเรื่อย ๆ

อันตราย ของเด็กดักแด้ คือ เมื่อหนังแห้งจะตึง และหดตัว ตอนแรกผิวหนังก็ชุ่มฉ่ำเพราะยังอยู่ในน้ำคร่ำ

พอคลอดออกมาโดน อากาศผิวหนังจะแห้ง พอผิวหนังแห้งจะเกิดการรัดตัว หดตัว
และดึงทุกส่วนที่เป็นช่องเปิดเช่น ตา หนังเยื่อบุตาจะปลิ้นออกมา ดึงตรงปากเยื่อ บุปากก็จะปลิ้นออกมาทำให้เกิดปัญหา ตาปิดไม่สนิท เกิดการระคายเคือง แก้วตาขุ่นมัว หรือ ถ้าปากปลิ้นก็จะทำให้เด็กดูดนม ดูดน้ำไม่ได้

เด็กดักแด้ที่อาการไม่ รุนแรงสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ แต่เขาจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและสูญเสียความร้อนทางผิวหนังได้ง่าย

ผมเจอน้องฟ้า น้องฟ้าผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิตมาแล้ว 23 ปี การพูดการจาของน้องฟ้าเป็นคนปกติเหมือนเราๆ ท่านๆ ผมเอง ว่า กริยามารยาทออกจะน่ารัก และ ความคิดความอ่านดูมีเหตุมีผลดี

น้องบอกว่า เรียนจบแล้วตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆ เพราะ ไปทำงานที่ไหน ก็ไม่มีใครรับ ใจเอง อยากมีชีวิตเหมือนคนปกติเค้า … ไม่อยากเก็บตัวอยู่กับบ้านแบบนี้ แต่ ก็เข้าใจที่คนส่วนใหญ่เมื่อพบ ก็จะรู้สึกกลัว …

เหมือนที่ผมเคยดูในหนัง เรื่อง Transcendence ที่มีคำกล่าวอยู่หนึ่งคำที่ผมชอบมากคือ … “มนุษย์จะกลัว..ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ”

ผมและพี่ๆ ที่มา survey ครั้งนี้ เข้าใจ ในตัวน้องฟ้า ครับ และ อยากเป็นกำลังใจให้น้องฟ้า แม้จะกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็อยากให้รู้ว่า … ในสังคมของเรานี้ .. ก็มีอีกหลายคน ที่ อยากที่จะแบ่งปัน ความสุข ให้กัน …

ถึงแม้จะเป็น่ส่วนน้อยๆ แต่ รวมๆ กัน ก็ช่วยให้วันนั้น เป็นวันหนึ่ง ที่มีความสุข ได้เช่นกัน

อ่านเพิ่ม

http://www.inderm.go.th/inderm_sai/health1.html

ช่วยน้อง สอนเรา : น.ส.ละมูน


น.ส.ละมูน
=======
กลุ่มพวกเราเดินออกจากบ้านน้องฟ้า …และ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังถัดไป ..
เสียงอาการดีใจ ทีมีคนเดินเข้ามา …ดังออกมาจากด้านหลังบ้าน

น้องละมูน บัวจันทร์ อายุ 32 ปี นั่งอยู่บนเสื่อ ข้างข้างคุณแม่ ชื่น บัวจันทร์ อายุ 57 ปี…

พวกเราทักทายพูดคุยกับ น้องละมูน แต่ ดูเหมือน การสื่อสารระหว่างเรา ต้องให้แม่ชื่น มาช่วยแปล …น้องละมูน ไม่ใช่ว่าไม่รู้เรื่อง แต่ การควบคุมกล้ามเนื้อให้ออกเสียงนั้น ดูเหมือนเป็นความยากเย็น

คุณแม่ชื่น เล่าว่า ตั้งแต่แต่งงานและได้น้องละมูน มาชีวิตของคุณแม่ก็เปลี่ยนไป เพราะ อาการพิการจาก ดาวน์ซินโดรม ของน้องละมูน นั้นทำให้ คุณแม่ไม่สามารถที่จะไปไหนมาไหนได้ เพราะต้องคอยอยู่ดูแล ลูกสาวคนนี้

จากที่เป็นแม่ ก็ต้องเป็นทั้ง ครู ทั้งเพื่อน ที่อยู่ด้วยกันทั้ง 24 ชั่วโมง ดูแลทุกอย่าง ทั้ง อาบน้ำ หาข้าวให้ทาน จนกระทั่งการขับถ่าย

เห็นภาพอย่างนี้แล้ว นึกถึง หัวอกคนเป็นพ่อแม่ ที่ยังไงก็ไม่เคยทิ้งลูก สะท้อนให้พวกเราต้องคิดถึงการดูแลพ่อแม่ของเราที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ดีเช่นกัน …

เดินออกจากบ้านน้องละมูนแล้ว…รู้สึกซึมๆ อย่างไรก็ไม่รู้

ช่วยน้อง สอนเรา : ยายคำใส บ้านแรก


ตอนแรกที่พี่เชียร สันดาน สันจร และ พี่อ๊อด Visoot Onlamai ชวนผมไป survey ผมปฏิเสธเสียงแข็ง .. เพราะ มันไกลเหลือเกิน ประกอบกับงานที่ยังล้นมืออยู่
…”มันไกลมากนะ ขอนแก่น ผมไปตอนทำบุญเลยไม่ได้เหรอ…” ผมบ่นทางโทรศัพท์กับพี่เชียร

“ผมอยากให้พี่ป๋องมา … มาช่วยกันดู มาช่วยกันเลือก” พี่เชียรบอก
“เลือกมาเลย ก็ดูที่เค้าช่วยเหลือ ตัวเองไม่ได้ ก็แล้วกันนะ เรี่ยวแรงดี มีญาติดู ก็ไม่ต้องเอาหรอก ..เพราะเงินเราก็ไม่ได้มากมายอะไร ” ผมบอกพี่เชียร แถมจะสั่งกลายๆ

“พี่ป๋องต้องมา … สะดวกมาวันไหน บอกผม ผมไปได้ทุกวันที่พี่สะดวก …” พี่เชียรบอก โดนไม้นี้ ผมเลยต้องจัดงานใหม่ โชคดีผมมีงานอยู่โคราช เลย ไปทำงานก่อนแล้วก็ลางานวันศุกร์ เพื่อไป Survey กับ พี่เชียร

พี่เชียร พี่อ๊อด ชวนพี่ โอเล่ คนพื่นที่ มารับผมที่โรงแรมในโคราช ตั้งแต่ เจ็ดโมงเช้า …ที่ต้องเช้า เพราะการ survey ไม่ใช่ง่าย ทั้งการเข้าไปหาแต่ละบ้าน การพูดคุย สอบถาม บ้านนึงไม่ใช่แป๊บเดียวเสร็จ ดังนั้น บวกการเดินทาง จากโคราช ไปขอนแก่น ไปและ เดินทางกลับกรุงเทพฯในวันเดียวกันด้วยแล้ว งานนี้ มีดึกเหมือนกัน

พี่โอเล่ ผมก็เพิ่งเจอครับ งานนี้ ใจดีเอารถ Fortuner ของแก พาพวกเราวิ่งเข้าไป ที่ ละหานนา …ระหว่างทางก่อนเข้าทางลูกรัง เหลือบเห็น ที่พัก ชื่อ โนบิตะ ก็เลย เข้าไป สอบถาม ได้ความว่า มีอยู่ไม่ถึง สิบห้อง ห้องละ 800 ต่อคืน …

ออกจาก โนบิตะ ก็วิ่งเข้า ไปที่ละหานนา เลยครับ เส้นทางลูกรังประมาณ 5 km สำหรับ คน Classic แบบพี่เชียร นี่ ถือว่าแกชอบมาก … ส่วนผมน่ะ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะ ชอบสำอาง ไม่ชอบเลอะเทอะ … โดนพี่เชียร หลอก เอ้ย ชวนไปขี่ เลอะๆเทอะๆ สองสามรอบก็สนุกดี ..ไม่ได้ชื่นชอบขนาด ต้องออก KLX มาขี่เหมือนหลายๆ คน …เพราะ ประเมินแล้วสังขารตัวเองคงขี่ได้ไม่กี่น้ำ … เพราะ หลังที่เคยผ่ามา อาจจะเดี้ยงก่อนเวลาอันควร

ผู้ใหญ่บ้าน มาด้วยกัน สองหมู่เลยครับ มี ผู้ใหญ่ หนำ อยู่หมู่ 4 กับ ผู้ใหญ่ยุทธนา อยู่หมู่ 15 มาช่วยกันพาไป ….
ผมเลยรู้เลยว่า จะเป็นผู้ใหญ่บ้านนี่ ต้องรู้ความเป็นไป ลูกบ้านหมดเลย ใครเป็นอะไรต้องรู้ และ ต้องเยี่ยมลูกบ้านเป็นกิจวัตร

สองข้างทางที่มองเห็น ทำให้ผมนึกภาพ บ้านนอกที่เคยไป สมัยเด็กๆ ไม่น่าเชื่อว่า เมืองไม่ห่างจาก เมืองใหญ่อย่างที่นี่ ยังคงสภาพ ชนบทได้อย่างครบถ้วน ตามถนน มีขี้วัว ขี้ควายเป็นกองๆ … classic มาก

บ้านแรกที่เราไปเยี่ยม เป็นบ้านของ ยาย คำไสครับ

ยายคำไส ป่วยเป็นเบาหวาน และ โรคความดัน ด้วยอายุ ที่สูงถึง 77 ปี และไม่มีคนดูแล ทำให้สภาพความเป็นอยู่แกไม่ดีเอาเลย

ยายอยู่ในบ้านคนเดียว … ผมถ่ายภาพมา เพื่อไม่ให้ต้องจินตนาการคำว่าบ้าน ของยายเค้าครับ …ผมว่าอาจจะเป็นคนละความหมายของคำว่าบ้านของใครหลายๆ คนในเมืองหลวง

 

ยายใส่เสื้อผ้าเก่าๆ เครื่องนอนขาดๆ ห้องน้ำที่ใช้ ต้องขอบอกว่า โทรมมาก ประตูปิดก็ไม่ได้ เรียกได้ว่า ปัจจัยในการดำรงชีวิต ของ ยาย ไม่ได้สวยงามเลย

แต่ถึงกระนั้น ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ ยายทุกข์ ยายยังยิ้ม อารมณ์ดี และ มีความใจสู้อย่างมาก

ผมกับพี่เชียร พี่อ๊อด อยู่พูดคุยกับยาย อย่างสนุกสนาน ..เราพยายามสร้างบรรยากาศการมาเยี่ยมให้ดี สิ่งบันเทิงของยาย เป็นเสียงหรีดหริ่งเรไร เพราะยาย ไม่มี ทีวี หรือ แม้แต่พัดลม

เราเดินออกมาจากบ้านยาย แล้วบอกว่า นี่แหล่ะ รายแรกที่เราจะมาช่วยกัน ….

Trip 03/2011 ขอนแก่น ตอนมี “ไฟ”


06 Jan 2011 เพิ่งจะผ่านขอนแก่น ไปตอนปีใหม่ ..ตอนนี้ต้องกลับมาทำงานที่นี่ อีกแล้วครับ

เหตุจำเป็นทำให้ต้องเดินทางมาอิสาน…

ระหว่างทางก็ มีเรื่องตื่นแต้น ซะแล้ว เพราะ ระหว่างผ่าน "กลางดง" อยู่ๆ มอเตอร์ไซต์ที่วิ่งอยู่หน้ารถตู้ ก็ แสดงอาการแปลกๆ แล้วจู่ๆ ก็ ล้มพับ ตัวพุ่ง ไปบนเกาะกลางถนน…

งง… เพราะ ไม่ได้ยินเสียงอะไร หรือ รู้สึกว่าโดนรถเราเลย…ถามคนขับ คนขับก็บอกว่า ล้มไปเอง ไม่ได้เฉี่ยวรถเรา… แล้วก็ขับต่อ
เป็นห่วงคนเจ็บ รีบโทร 191 ไม่มีใครรับ เลย โทรไป 1669 หน่วย นเรนทร ได้ผล เจ้าหน้าที่รับเรื่องประสานงาน เรียบร้อย
ไปได้ไม่ไกล ตำรวจที่ด่านดักไว้ สกัดรถให้หยุด บอกว่า มีคน แจ้งว่า รถตู้เรา ชนแล้วหนี…โอ้ว งานเข้า…
คนโทรวิ่งไล่กวดมาติดๆ มายืนยัน เสียงแข็ง ว่า เห็นกับตาว่าเราชน เพราะ ขับตามหลังมาติดๆ แถมเป็นคนกลางดงด้วย…งานนี้ เลยจัดเต็ม…

…กว่าจะเคลียร์ได้ เสียเวลาไปเอาการอยู่…

มาเที่ยวนี้มาทำงาน เกือบได้งานเพิ่มซะแล้ว…

ตกเย็น นัดแม่เมียด ไว้ให้ไปเจอกันที่ขอนแก่น เพราะ มาตรวจตา อาการไม่ค่อยดี เพราะหมอบอก ตาจะบอก …เลยต้องมาคุยกับหมอเอง…
…ซึ่งหมอ ก็ยืนยัน ว่า ตาจะบอดจริงๆ ..กลุ้มเลย…
งานนี้ มากับน้องๆ หลายคนครับ เพราะ แวะมาทำธุระสองที่ … ได้ น้องเหม่ง เจ้าถิ่นแนะนำให้มาร้าน smile
เหตุผลคือ มัน คล้ายในกรุงเทพฯ ดี …อืม…ดี คนกรุงเทพฯ มาซะไกล ได้ ร้านกรุงเทพฯ ซะงั้น
แต่บรรยากาศก็ดีจริงๆ ครับ เพลิดเพลินกันไป
แถมท้ายกันด้วย พาไปดู ไฟ รอบๆ เมือง อันนี้ต้องขอบคุณ น้องเหม่ง เหลือหลาย เพราะ มาขอนแก่นหลายรอบ ยังไม่เคยได้ไปดูอะไรอย่างนี้เลย…
เดินเข้าออก โรงงงาน กับ โรงแรม ตลอด…
มีน้อง มีนุ่ง มันดีอย่างนี้นี่เอง..

IMG_7632

มาเที่ยวนี้ ขอนแก่น ยังเย็นสบาย และยังประดับไฟปีใหม่สวยงาม

มาเจอน้อง “ลูกปลา”  เหม่งจ๋วย คนสวย ขอนแก่น ที่นี่ด้วยครับ

ได้รับความกรุณา จากน้องเหม่งจ๋วย เที่ยวชมเมืองยามดึก …ต้องขอขอบคุณมากๆ

 

==============================================

มีรูปอีกหลาย ใน Facebook Click เลย

Trip 02/2011 ไดโนเสาร์ กับ ดอกทิวลิป


02 Jan 2011 เคยได้ทราบมานานแล้วว่า ที่ขอนแก่น นี้เป็นดินแดนแห่ง ไดโนเสาร์

แต่ก็ไม่เคยได้ มายัง สถานที่ที่เค้าขุดเจอกันเลย

เที่ยวนี้ ขากลับ เลยแวะเที่ยวระหว่างทาง โดย ที่แรก ที่จะไปคือ สวนทิวลิป ที่อุดรฯ

ทางไป ก็ มาทางวัดป่าบ้านตาด ของหลวงตาบัวนั่นแหล่ะครับ วิ่งมาเรื่อยๆ พักใหญ่ ก็ จะเจอกับ สวนดอกทิวลิป อันสวยงาม…

ที่นี่เรียกว่า “ภูฝอยลม”ครับ

ก็จัดว่าพยายามทำครับ แต่ ก็ไม่ถึงกับ ประทับใจมากนัก ..เพียงแต่ ทางผู้จัดบอกว่า เป็นแห่งแรกในภาคอีสาน… ประมาณนั้น

ด้านหน้า

นั่งดู ทิวลิป กันพักใหญ่ ก็ ต้องรีบไปยัง จุดที่สองคือ

ซากของน้อง (ได) โน (เสารฺ์) ที่เก็บไว้

จุดแรกไปแวะที่ศรีเวียงครับ …เพราะใกล้ดี

ที่นี่ ทำอาณาจักรไว้ใหญ่โตเชียวครับ

ใหญ่จน คาดไม่ถึง ว่า จะทำไว้ซะขนาดนี้

ด้านนอก เดินรอบๆ ก็ จะมี สิงสาราสัตว์ ในยุคก่อน เต็มไปหมด

หยอดเหรียญ ให้มีการขยับ และ มีเสียง ประกอบได้

บ้างตัว ตัวใหญ่มากๆ ก็ ทำให้นิ่งไว้เฉยๆ

ดู ด้านนอก จนทั่ว นั่งรถต่อไป อีกหน่อย จะเป็น ส่วนที่เป็น อาคาร เก็บ ฟอสซิว

ภายในอาคาร ไม่มี อะไรมาก แต่ เปิดให้ดูฟรี ดังนั้น ก็ ควรเข้าไปชมสักหน่อย

มาแล้วก็ เก็บ ภาพที่ระลึกไว้ครับ ไม่เสียหาย

หลังจาก แวะ ดู ไดโนเสาร์ จนหนำใจแล้ว ก็ เดินทางมุ่งตรงไปยังกรุงเทพฯ

เชื่อหรือไม่่ว่า ออกจาก หนองคาย ตอนเก้าโมงเช้า

วิ่งมาถึงขอนแก่นนี่ ทำลายสถิติ การเดินทางเลย เพราะ ช่วงอยู่ขอนแก่นนี่ใช้เวลาในการวิ่ง

“…หกชั่วโมง เพื่อให้ ได้ หกสิบกิโลเมตร…!!!”

ท้ายสุดต้องย้อนกลับไปเลี้ยวเข้าบัวใหญ่ และ ผ่านทางลพบุรี

จนกระทั่งถึง กรุงเทพฯ ตอนหกโมงเช้า ของอีกวัน พอดี….

หวังว่าเที่ยวนี้ คง ะ เข็ด และ ไม่ไปไหน ช่วงเทศกาลอีก โดยเฉพาะ มาทางอีสาน นี่นะครับ

————————————————————————

ภาพประกอบคำบรรยาย เก็บไว้ใน Facebook >>Click here<<