Posts from the ‘ความบันเทิง’ Category

หนังกลางแปลง


พี่ป๋องย้ายไป อยู่ต่างจังหวัดตอน ป.4 เลยมีโอกาสได้เห็น “โรงหนัง” ในหลายรูปแบบ

ก่อนย้ายไป กิจวัตร ประจำวันหยุด ของ พ่อ กับ ลูก คือการไป ดูหนัง ตามโรงหนัง

พี่ไม่เคยรู้สึกว่า พ่อเป็นคนชอบดูหนังนะ แต่ พ่อไปดูหนังทุกสัปดาห์ …
ขีวิตประจำวันหยุดของคนเป็นพ่อ ก็คงต้องพาลูกไป เที่ยว สมัยนั้น การพาลูกไปเรียนอะไรเพิ่ม น่าจะกระทบค่าใช้จ่ายของพ่อ มาก พ่อเลยเลือก ดูหนัง เพราะ พ่อ ตีตั๋ว 10 บาทแถวหน้าสองที่ ก็จะได้ นั่งอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ สองชั่วโมง

โรงหนัง แถบถนน เพชรบุรี ไปยันประตูน้ำ ลามไปจนถึงสยามแสวคร์ เลยเป็นที่คุ้นเคย ของเรา สองพ่อลูก

พอมาอยู่ที่ โพนพิสัย .. อำเภอเล็กๆ แต่ ก็มี โรงหนังประจำอำเภอ เหมือนกัน ..จำชื่อโรงไม่ได้ละ เดี๋ยว รอเพื่อนมาบอก อีกที

หนังโรง (แถวนั้นเรียกแบบนั้น) จะมีสองรอบ คือ รอบ บ่ายสอง กับ รอบหนึ่งทุ่ม

โรงหนังใช้วิธีพากย์เอาบ้าง หรือ ไม่ก็มีเสียงมากับ หนังเลย ที่รุ้เพราะ มีชื่อ นักพากษ์ประจำ คือ โกจนาช ให้เสียงภาษาไทย ..

โรงหนังนี้ มีสองชั้น ชั้นล่าง สิบบาท ชั้นบน ยี่สิบ ผมเคยดูชั้นบนอยู่ครั้งนึง ไฮโซมาก ทั้งโรงไม่มี แอร์ แต่ ชั้นบน ดูปุ๊บ รู้เลยว่า รวย

ผมชอบดูหนัง แต่ไม่มีตังส์ ดังนั้น สิบบาทที่ต้องซื้อตั๋ว ก็ยังไม่มี เวลาอยากดูต้องไปยืนรอ จนหนังจะฉาย ซึ่งทางโรงหนัง ก็จะเปิดเพลงมาร์ช แทน ทะ แด แดน ทะ แด แดน แด่ แด แด้ แด่… เป็นที่รู้กันว่าได้เวลาหนังจะฉาย ละ คนที่ รออยู่นอกโรงก็ทยอยเข้าโรง เพราะ ในโรง ไมมีแอร์ รอข้างนอก ได้ Feel กว่า เข้าไป ก็เลือก นั่งได้เลย ไม่ได้ ล๊อกที่นั่ง เหมือนในกรุงเทพฯ เขา

หนังเรื่องไหนดังๆ เก้าอี้ไม่พอ ก็เสริม เก้าอื้ตรงทางเดิน กันจน ไม่มีที่เดิน …

พอหนังจะฉาย ผมจะไปหาคนเก็บตั๋ว จะเป็นผู้หญิง เจ้าของโรงหนัง เก็บเอง แล้วยื่นเงินให้ห้าบาท … พร้อมกับ มองหน้าเจ้าของ

นั่นเป็นหลักสูตร การเจรจาต่อรอง 101 บทเรียนที่สอง ที่ใช้กับ คนนอกบ้านของผมเลยครับ

เจ้าของโรง หรือ คนเก็บตั๋ว จะมองหน้า แล้ วส่ายหน้า ..แปลว่า ไม่ได้ ให้ผม ผมต้องรีบชักมือกลับทันที แล้ว ถอยหลัง ไปสามเก้า ไปตั้งหลักใหม่

ช่วงแรก หนังจะมี โฆษณา มีตัวอย่าง ..หว่างนั้น ผมจะดูว่า คนซาแล้ว ไม่มีคนเข้าไปดูอีกแล้ว ซึ่งหมายถึงว่า รายได้ของ รอบนี้ น่าจะไม่มีเพิ่มแล้ว ก็จะค่อยเดินไป ยืนเหรียญ ห้าบาทเหรียญเดิม เข้าไป

ส่วนใหญ่แล้ว เจ้าของโรง จะปฏิเสธ ข้อเสนอ รอบ ที่สองนี้ทั้งนั้น …

รอบที่สามเป็นรอบตัดสิน เพราะ ถ้าเจ้าของปฏิเสธ แสดงว่าโอกาสดูหนังรอบนั้น หมดไป ต้องไปลุ้นวันใหม่อีกที …

มานั่งนึกดู ชีวิตเราก็ดิ้นรน มาพอควรเลยนะ สำหรับ ความบันเทิง อย่างการดูหนังเนี่ย …

หนังอีกอย่างที่ได้ดูบ่อยๆ เพราะ บ้านผมอยู่ติดกับวัดจุมพล ซึ่งวัดจะมีลานกว้างๆ ไม่ได้ทำอะไร เหมาะกับ การจัดงานวัด งานมหรสพ หรือ หนังกลางแปลงเป็นอย่างยิ่ง …

สมัยนั้นหนังกลางแปลง เป็น model ที่ แก้pain เรื่องที่ ไม่มีโรงหนัง โดย ทีมงานจะมีเครื่องฉาย จอ และ ผ้าที่ล้อมเอาไว้ ไม่ให้ คนเข้า (มุดยากด้วย เคยแล้ว ) ขายตั๋ว เข้าชม ฉาย หนัง กัน บางทีถึงเช้า ที่ คนอีสาน เรียกว่า “ซอดแจ้ง” ผมชอบไปดู แต่ ไม่เคย ดูจบ ไม่หลับไป ก็ โดนเรียกกลับบ้านเพราะง่วงกันต่อ

ตอนนั้น มีทีมที่ดังๆ เหมือนกัน นะ จำได้มี แอ๊ด เทวดา ทีมเน้นเรื่อง จอใหญ่ และ ระบบเสียงกระหึ่ม ไม่รู้ตอนนี้ ยังมีอยู่หรือเปล่า นะ

อีกอันที่ Classic มากคือหนังขายยา ..

หนังขายยา ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆ เลย เพราะ ต้องไปที่ ห่างไกลความเจริญจริงๆ ผมเคยอยู่ครั้งไปนอนใน ตำบลกุดบง ที่ห่างจากตัวอำเภอ เพราะ ตามแม่เมียด ไปทำงาน วันนั้น ได้มีโอกาสดูหนังกลางแปลง และนั่งอยู่ใกล้กับ เครื่องฉาย ด้วย

ได้เห็นการฉายหนัง การที่คนฉาย ทำการพากย์หนัง แล้ว ก็มีหยุดกลางเรื่อง เพื่อ ทำการขายยา .. โอ้ว คนเดียวทำทุกอย่าง ตระเวณไปทั่วประเทศ … อินดี้ มากๆ

เป็นครั้งเดียวที่ได้ดู แต่ ก็จำได้ไม่ลืม ..ตอนนี้เข้าใจว่า คงไม่มีอาชีพนี้ อีกแล้ว เพราะ บ้านเทมืองเจริญขึ้น

นำเรื่องหนัง มาเล่า เพราะ ทุกวันนี้ ก็ยังชอบดูหนัง ถึงยุคจะเปลี่ยนเป็น Streaming หรือ เข้าไปดูแบบ VR การดูหนัง ก็ยังเป็น Entertain ที่ดี เสมอมา ..

IMAX เมืองไทย


หลายท่านอาจชอบดูหนัง แต่บางท่านจะนิยมดูใน โรงหนัง
ผมจำได้ว่า จุดเปลี่ยนที่ดึงคนออกมาดูหนัง หลังจากนอนดู VDO ในบ้าน คือ โรงหนังแบบ Cineplex ที่มีโรงหลายๆ โรง อยู่ที่เดียวกัน .. จำได้ว่าตอนนั้น มี ที่ บางแค 10
จากที่ซื้อตั๋วโรงละช่อง เป็นการซื้อตั๋วแบบ online และ มี card เติมเงิน ทำให้สีสันการขมภาพยนตร์คึกคัก

ผ่านมาร่วมสามสิบปี ระบบ Home theater ดีขึ้น และ การดูหนังจาก internet สามารถ download ภาพระดับ Utra HD หรือ 4K มาดูได้สบายๆ .. คนคงคิดว่า โรงหนังคงถึงกาลอวสาน เป็นแน่ ..

แต่ผมว่า โรงหนังยังไม่เจ้งครับ เพราะ นวัติกรรมอย่างนึง ที่ยังไม่สามารถ เอามาไว้ในบ้านได้ คือ การดูหนัง ที่ถ่ายทำโดยระบบ iMAX
IMAX มีมานานครับต้นคิดมาจาก Canada … อย่างงนะครับ ..  แต่ เริ่มขยายธุรกิจ เมื่อ 8 ปีก่อน เมืองไทยเอง ผมคุ้นๆ ว่าเริ่มมีเมื่อสักห้าปีก่อนนี้ .. โดย มีที่แรกน่าจะที่ รัชโยธิน ผมเองจำได้ว่า เรื่องแรกที่ดู เป็น ที่ Paragon โดยช่วงแรกๆ หนังส่วนใหญ่เป็นสารคดี ..  มีอยู่เรื่องนึงเอาหนังขาวดำ ที่ถ่ายทำสมัยก่อนมาทำการ Remaster หรือที่เรียกว่า IMAX DMR มาฉาย .. รู้สึกทึ่งมาก ว่า เขาทำได้อย่างไร

IMAX เมืองไทย มี หกโรง (ทั่วโลกมีพันกว่าโรง ในหกสิบกว่าประเทศ) ผมว่าคนไทย โชคดี มีของดีให้ดู แถมค่าดูถูกกว่าเมืองนอกมาก เพราะ มี pro สำหรับ member ทำให้ ลดค่าดูไปไดตั้งครึ่ง ..

วันนี้ เวลาดูหนัง ถ้าหนังเรื่องไหน ถ่ายทำด้วย กล้อง IMAX ผมจะต้องเลือกที่จะดูในโรงหนังที่เป็น IMAX เพราะ จะสามารถเห็นภาพที่ถ่ายจาก film ที่เป็นระบบ 15/70 หรือ ฟิลม์ ขนาด 70 mm และ มีหนามเตย 15 รู โดย ฉายที่ 24 frame ต่อวินาที (ถ้าเป็น HD จะฉายที่ความเร็ว 48 เฟรมต่อวินาที)

imaxcomparescale

สำหรับคอ IMAX ควรทราบด้วยนะครับว่า ขนาดจอหนัง แต่ละโรงนั้นไม่เท่ากัน .. ถ้าจะดูให้ สุดต้องไปที่ Paragon ครับ เพราะ จอสูง 21 m. ในขณะที่ West gate นั้น สูง 13.7 m. ซึ่งแน่นอนว่า ราคาค่าตั๋ว ย่อมไม่เท่ากัน เพราะที่ Paragon นั้น ค่าตั๋ว 500 ในขณะที่ West gate 220 ครับ  สมาชิกก็ ลดอีก 10% และ 1 ฟรี 1 ในวันจันทร์

หนังเรื่องล่าสุดคือ Dunkirk หนังระดับ 8.7 imdb ถ้าอยากรู้ว่า IMAX คุ้มแค่ไหน แนะนำให้ไปโดนครับ เรื่องนี้ เพราะ เกือบตลอดทั้งเรื่องถ่ายด้วย IMAX และ มีหลายมุมที่ ต้องแบก กล้องวิ่งถ่ายไปด้วย (กล้องตัวนึงก็ไม่ต่ำกว่า 5 แสนเหรียญ แล้ว)

ผมว่า IMAX คงจะเป็นทางรอดของโรงภาพยนตร์บ้านเราในอนาคตอันใกล้นี้ และไม่แปลกใจที่จะเห็นโรง IMAX มีมากขึ้นทั่วไทยครับ

#เลือกดู

#imax

Ex Machina


รอดูหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่ เห็น Trailer จนกระทั่งหนังลงฉาย …
ก็ยังไม่ได้ดู..

จนวันก่อนไปได้หนังนี้ จากเพื่อนบ้านที่คอนโด ชื่อน้อง ซาลิม วันนี้เลยเอามานั่งดู..

ช่วงต้นของเรื่องผมนั่งปลื้มกับ การออกแบบ บ้านพัก (ซึ่งเป็นศูนย์วิจัย) ที่สวยมาก จนรู้สึกว่า มันมีที่ทำงาน แบบนี้จริงๆ หรือนี่…

ตัวหนัง พูดถึงการทดสอบ หุ่นแอนดรอย์ที่ เป็นรุ่นพัฒนา ..

บทเขียนดีมาก .. มีความสลับซับซ้อน ที่เล่นกับความคิดของคนดูใหคาดเดาไปต่างๆ นานา ..

คัว CG ทำออกมาเนียนดี . ผู้เล่น ก็ เล่น ได้แข็งเหมือนหุ่นจริงๆ (55)

ตอนจบก็ทำออกมาได้ดี ..

ถ้ามีเวลาอยากแนะนำให้หามาดูครับ

คนไทยนอนดูหนังทุกวัน

moviemaniathailand

Star Wars ========


“When gone am i, the last of the Jadi, you will be…”

ใครเรียนภาษาอังกฤษจาก Yoda คงต้องสับสนกับการจัดเรียงประโยคเป็นแน่…

ผมกำลังนั่งดู Return of the Jedi (Star wars epislode VI) เพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนไปชม The Force awakens ซึ่งเป็น episode VII

Star wars episode VII เข้าโรงแล้วเมื่อวาน… ผมเองตื่นเต้นไม่น้อย เพราะ เคยนึกอยู่ว่าจะมีชีวิตได้ดูถึงภาคสุดท้าย (Episode IX) หรือไม่?

Star wars สร้างตอนแรก (Episode IV) ในปี 1977 … 38 ปีที่แล้ว ผมเองไม่ได้ดูเรื่องนี้ในโรงหนังเพราะอยู่ต่างจังหวัด ตอนนั้น 10 ขวบ

ตอนต่อมา (Episode V) ตามหลังมาอีกสามปี (1980) ผมยังอยู่ต่างจังหวัด จำได้ว่าสึกจากบวชเณรฤดูร้อน ตามพ่อมาเที่ยวกรุงเทพฯ และ ได้ดูเรื่องนี้ที่โรงหนังสกาลา … ป็นหนังเรื่องแรกที่ผมได้สัมผัสถึงระบบ Stereo ตื่นเต้นมากที่เสียง แยกซ้ายขวา ตามคนพูด นั่นเป็นการยกระดับการ “ฟัง”หนังของผม ซึ่งต่อมาภายหลังผมพยายามไม่เลือกที่จะดูหนังที่เป็นเสียง Mono อีกต่อไป

ภาคที่แล้ว คือ episode VI Return of the Jedi ฉายเมื่อ 32 ปีก่อน (1983) ควรจะดูก่อน ถ้าคิดจะไปดู Star wars ที่เข้าโรงตอนนี้ แต่อย่าสับสนกับ ภาคล่าสุด (Episode III) ที่เพิ่งฉายไปเมื่อ 10 ปีก่อน (2005)

ลิเกอวกาศเรื่องนี้ พี่ Geroge Lucus ตั้งใจสร้างทั้งหมด 9 ตอน หลังทำเป็นหนังแล้ว ก็มีการทำเป็น หนัง 3D มาฉายในโรงอีกรอบ ที่กั๊กๆไว้คือ ยังไม่เคยมี Bluray ที่เป็น 3D มาให้เก็บ ซึ่งผมเคยคาดการณ์ว่า น่าจะออกมาเป็น Collection ให้เหมาทีเดียว หลัง Episode IX ลงแผ่น…ทำให้หนังเรื่องนี้ฟื้นขึ้นมาดูดเงินในกระเป๋าตังส์ผมได้อีกรอบ

Return of the Jedi มี effect ใหม่ๆ ในยุคนั้นหลายฉาก สร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างมาก ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมมากในยุค ก่อน Digital CG…

สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้คือ งานอะไรที่เราตั้งใจทุ่มเททำมันออกมา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน ก็ยังมีคนหยิบยกขึ้นมาชมตลอดกาล

May power will be with you ครับ…

#คนไทยนอนดูหนังทุกวัน
#moviemaniathailand
#theforceawaken
#starwarsVII
#starwars

ตื่นตาตื่นใจ ========


ปี 2516…วันที่ 23 ตุลาคม ผมรีบตื่นแต่เช้า…เสียงกลองดัง ตึง.ตึง ตึง ดังมาแต่ไกล ทำเอาหัวใจผมเต้นระทึก…

พ่อบอกว่าวันนี้จะพาไปดูสวนสนาม หน้าพระรูปฯ

บ้านผมกับลานพระรูปใกล้กันนิดเดียว ด้านหลังบ้านมองเห็น “เก้าชั้น” เจ้าเสากระจายคลื่น ที่เห็นเป็นโครงๆ มองเห็นได้จาก วัดโสมฯ และ จากสี่แยกมหานาค เสานี้เปิดไฟกระพริบสีแดงๆ อยู่ทั้งวัน

ผมแต่งตัวหล่อด้วยชุดที่พ่อซื้อให้จากตลาดนัดวันก่อน เสื้อเชิ๊ตกางเกงขาสั้น ใส่รองเท้าถุงเท้าเรียบร้อย…

พ่อแต่งตัวเนี๊ยบ …ผมไม่ทำให้พ่อเสียชื่อแน่

ผมกับพ่อเดินไปลานพระรูปโดนตัดออกทางหน้าวัดโสมฯ พ่อผมไม่เหมือนคนอื่น เวลาไปเที่ยวด้วยกันพ่อไม่เตยเดินจูงมือผมนะ ปล่อยเดินเองตลอด และ ต้องคอยมองพ่อเอง ..เผลอไม่ได้ พ่อหาย และ ถ้าหายพ่อไม่เคยตาม..

ผมเชื่อว่าพ่อรักผมและพยายามฝึกให้ผมเอาตัวรอดตั้งแต่ห้าขวบ…

ที่ลานพระรูปผู้คนเยอะจนผมมองไม่เห็นขบวน ผู้ใหญ่ยืนเต็มไปหมดจนเหมือนกำแพงมนุษย์อยู่ตรงหน้า… เสียงกลองที่ดังทำให้ผมต้องหาทางมุดออกไปดู ตัวเล็กๆ นี่มุดง่าย ในที่สุดก็สำเร็จ

ภาพตรงหน้าตื่นตาตื่นใจ กองทหารแต่ละเหล่าทัพ สลับกันเดินสวนสนามอย่างพร้อมเพรียง ขาก้าวตรงกัน ดูมีพลัง และ แข็งแกร่ง เครื่องแบบอย่างเนี๊นบ ใส่หมวกมีพู่ สายตาทุกคนนิ่ง ผมมองทุกคนอย่างชื่นชม…คิดว่าโตขึ้นสักวันคงมีโอกาสได้มาเดินสวนสนาม เพื่อวางพวงมาลา อันเป็นพิธีอันทรงเกียรติ

ขบวนสวนสนามมีมาเรื่อยๆ ไม่มีขบวนไหนที่จะไม่ทำให้ผมตื่นเต้น…เกิดมาไม่เคยดูอะไรแบบนี้ในระยะประชิดเลย..ดูจากทีวีก็ไม่แจ่มเพราะภาพในทีวีบ้านพื่อนบ้านข้างๆ ยังขาวดำ และจอนิดเดียว

รอบๆราชดำเนิน พ่อค้าเอาของมาขาย ทั้งอาหารเครื่องดื่ม ใส่รถเข็นมาขาย ที่ผมชอบคือ พ่อค้าขายลูกโป่ง ที่มีลูกโป่งลูกกลมๆ หลากสี อยากให้พ่อซื้อให้สักลูก จะได้ผูกข้อมือ เดินไปไหน มันก็ลอยไปด้วย ถึงจะคุยด้วยไม่ได้แต่ก็ไม่เหงา ^^

แต่ก็ไม่ได้ขอ…เพราะ อยากได้อะไรไม่เคยขอพ่อเลย อยากได้ต้องทำดี ทำดีมากๆ พ่อจะให้รางวัลเอง….

สิ่งนึงที่เป็นสีสัน และ ผมชอบดูไม่น้อยกว่าสวนสนามคือ คนขายของเล่น

คนขายของเล่นสมัยนั้นจะถือเสาที่มีของเล่นต่างๆ เสียบเอาไว้ …ที่ผมชอบสุดเห็นจะเป็นเครื่องบินไม้ ที่มีใบพัดออกตรงก้น (สาบานเลยว่าตั้งแต่เกิด ผมยังไม่เคยเห็นเครื่องบินที่มีใบพัดออกตูดเป็นเรือ แบบนี้จริงๆ สักลำ) ใบพัดเวลาหมุนมันจะไปสียางสนเป็นเสียงเรียกความสนใจ

ขนมหวานข้างทาง ก็อร่อย ผมชอบท๊อฟฟี่ที่คนขายต้องปั้นแล้วแต่งด้วยกรรไกร ..ที่เห็นบ่อยสุดจะเป็นรูปลิงนั่งตกปลา…

ขบวนพาเหรดเดินจนแดดสาดส่อง… ถึงแสงจ้า แต่อากาศช่วงนี้ยังเย็นสบาย….

พ่อบอกว่า วันนี้เป็นวันสวรรคตของ ร.5 พ่อเล่าให้ผมฟังว่า ในหลวง ร.5 ท่านเก่ง และ ยิ่งใหญ่มาก เมืองไทยทุกวันนี้ เปลี่ยนแปลงและเจริญกว่าหลายๆที่ เพราะ ท่านมีการเปลี่ยนแปลง….

ตอนนั้นผมฟังไม่เข้าใจลึกซึ้ง … แต่ นึกในใจว่า คนมาวางพวงมาลา เยอะขนาดนี้ บารมีท่านต้องสูงมากๆ …

เพราะคนปกติแค่ไม่เจอหน้ากันไม่กี่วันก็ลืม …แต่สำหรับท่าน เราทุกคนล้วนไม่เคยพบหน้าท่านแต่ก็ยังเคารพและรำลึกถึงแม้ท่านจากไปนานแล้ว….เด็กอย่างผมก็ต้องคิดได้ถึงการสำนึกพระคุณอันล้นพ้น…

ผมเดินเล่น จนขบวนสวนสนามขบวนสุดท้าย จบลง และ เดินหลับบ้านกับพ่อแบบเปรมปรี … วันหยุดไม่ต้องไปเที่ยวไกล …ไม่ต้องคิดไปไหน แต่มาที่ลานบรมรูปก็สุขใจแล้ว…

…ผมเดินตามพ่อกลับบ้าน…พ่อหันมายิ้ม…

=====


ปี 2558 วันที่ 23 ตุลา … ผมรีบตื่นแต่เช้า… นาฬิกาปลุกผมตอน ตีสี่ครึ่ง… วันนี้ผมตั้งใจไปลานพระรูป หลังจากสองปีก่อนดันไปสาย ได้เห็นแค่ไม่กี่ขบวน และ ปีที่แล้วก็ไม่ได้ไป….

ความต้องการเห็นขบวนพาเหรดอันเกริกไกรทำให้ผมสลัดความขี้เกียจ ควบมอเตอร์ไซต์ออกใาจากบ้านที่นครปฐม….

ผมมาถึงเลี้ยวผ่านตรงวัดเบญฯ มีทหาร ตำรวจยืนตามข้างถนน ถนนไม่ได้ปิด รถยนต์ยังวิ่งได้ แต่ วิ่งเส้นด้านข้าง เสียงกลองไม่ดังเหมือนก่อน ..

ผมหาที่จอดรถ ข้างถนนรถจอดเต็มไปหมด ผมขี่มอเตอร์ไซต์เลยหาช่องไปจอดบนฟุตบาท เห็นคนนอนอยู่เต็มฟุตบาท ไม่ทราบเป็นพวกไหน.. รถมาจอดก็ไม่ลุก มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่าง.. ขบวนพาเหรด เริ่มเข้ามา ..

ทหารที่แต่งเต็มยศ ไปไหน.. ผมเห็นมีแต่ที่ใส่เครื่องแบบ แต่ดู ไม่อลังการเหมือนเมื่อก่อน ..

หรือว่าเราโตขึ้น ความตื่นเต้นน้อยลง หรือว่า กองสวนสนามเขาไม่จัดเต็มเหมืมอนเมื่อก่อน

ขบวนจากทหารหาญ มีมาเหมือนไม่ครบเหล่า แต่ก็มีกองสวนสนามมากันเรื่อยๆ .. ถ้าไม่ใช่ ทหาร บางที มีเดินคุยกันบ้าง ..

หนักสุดที่เห็นคือ ของเด็กเทคโนหรือเปล่าไม่รู้ ที่ เขียนว่า สี่เกียร์ เดินคุยโทรศัพท์ ด้วยเลย.. (คงธุระสำคัญ แต่ ไม่อยากออกจากขบวน)

อีกอย่างที่เห็นแล้วไม่ชอบคือ ขบวนของนักเรียน ที่ จะมีคนคนนึง (เข้าใจว่าเป็นอาจารย์ที่ควบคุมกองดุริยางค์) เดินอยู่ในขบวน และคอยบอกเด็กให้อยู่ในวินัย .. นึกอะไรไม่ออก ก็มาเดินคู่กับ ดรัมเมเยอร์ .. ผมตะหงิดๆ อยากเดินไปสะกิด ท่านนั้นเหมือนกัน ว่า .. คุณพี่ออกมาจากขบวน จะทำให้ ขบวนสวยงามขึ้นมากครับ …ดีกว่าเดินพล่าน ขัดหูขัดตาแบบนี้ ..

ผมดูขบวนสวนสนาม จนแดดเริ่มออก .. แดดวันนี้แรงพอกับปี 2516 แต่ร้อนกว่ามาก.. ตัดสินใจกลับบ้านดีกว่า .. ไม่อยู่รอจนหมด..

ผมมองไป เห็นพ่อมองไปที่ขบวนพาเหรด เห็นตาเหม่อลอย .. สีหน้าผิดหวัง…

ผมนึกในใจ .. ไม่เป็นไรนะพ่อ ปีหน้ามาใหม่ .. เขาคงจัดให้ใหญ่กว่านี้..

== จบ ===

ปีหน้าอยากชวนไปดูกันเยอะๆ ครับ และเชื่อว่า แต่ละขบวนคงจะทำออกมาให้ยิ่งใหญ่เหมือนตอนที่ผมเป็นเด็ก

ป๋อง

Review Nikon AW 130 กล้องกันน้ำ 30 เมตร


หลังเจ้า Cannon A110 ของผมจากไปอย่างสงบ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องมาจากเอามาถ่ายภาพ ตอนไปเที่ยวน้ำตก แล้วฝนดันกระหน่ำลงมา จนซุกยังไงก็เปียก .. ทำให้เจ้า shutter มันวิ่งแบบมีชีวิตทุกครั้งที่เปิดกล้องทำงาน..
อาการ shutter รวนคราวนี้ ทางศูนย์ บอกว่าค่าเยียวยา สูงถึง 6,000 กว่าบาท เทียบค่าตัวแกะกล่องแล้วต่างกันไม่มาก ผมเลยต้องตัดใจกลายร่างกล้องเป็นที่ทับกระดาษไป

คราวนี้เลยระบุ spec แบบว่า เอาให้ sure เรื่องน้ำไปเลย โดยไปโพสถามใน facebook ได้ข้อมูลมาหลายรุ่น แต่สะดุดตาเอารุ่นนี้คือ Nikon AW 130 กล้อง compact หน้าตาสี่เหลี่ยม ที่ผมมองแว๊บแรกก็รู้สึกเหมือนอุปกรณ์ที่ใช้ใต้น้ำในทันที เพราะ รูปแบบของปุ่มต่างๆ ออกแบบมาให้กันน้ำได้ เพราะ ชีวิตหลังๆ ของผมจะโลดโผนเยอะ
Nikon Coolpix AW130 Specification

  • เซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.3″ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
  • ISO 125-6400
  • เลนส์ซูมออฟติคอล 5x ระยะ 24-120mm f/2.8-4.9
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 7 ภาพต่อวินาที
  • จอแสดงผล OLED ขนาด 3.0″ ความละเอียด 921,000 พิกเซล
  • ถ่ายวิดีโอ Full HD 1920×1080 ที่ 60i, 50i, 30p, 25p
  • มี Wi-Fi และ NFC ในตัว
  • มี GPS ในตัว พร้อมแผนที่ในตัวและฟังก์ชั่น Point of Interest(POI)
  • กันน้ำลึก 30 เมตร ทนอุณหภูมิได้ -10 องศาเซลเซียส ทนการตกจากที่สูงได้ 2.1 เมตร
  • หน่วยความจำในตัว 473MB
  • ใช้แบตเตอรี่ EN-EL12
  • น้ำหนัก 221 กรัม

สารภาพตามตรงเลยว่านี่เป็นกล้อง Nikon ตัวแรกของผม หลังจากใช้ Cannon ท้้งกล้องเล็กกล้องใหญ่มาหลายตัว ่ลุยไปทุกๆ ที่ ก็ต้องบอกว่า ทนใช้ได้ จนกระทั่งมาเจอเรื่องน้ำนี่แหล่ะ ที่ทำให้ ต้องมองหาสิ่งใหม่ที่ตอบโจทย์ ดังนั้น สิ่งที่มองหาก็ต้องเน้นทนทาน ทั้งเรื่องกระแทก และ กันน้ำ เพราะไม่มีปัญหาจะซื้อกล้องใหม่บ่อยๆ  ทีนี้เวลาซื้อกล้อง สิ่งที่จะทำการเปรียบเทียบก่อนก็คงจะเป็นพวก function ต่างๆ ดูเร็วๆ ก็พบว่า ตัวกล้องรุ่นนี้ มี mode ในการถ่าย และ แต่งภาพ build in เอาไว้ พอสมควร เดี๋ยวตอนใช้งาน คงจะดูกันละเอียดต่อไป

กล้องตัวใหม่สำหรับการผจญภัยของผม

กล้องตัวใหม่สำหรับการผจญภัยของผม

ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจในเรื่องของความทนทาน ต่อการใช้งาน ที่เป็นสิ่งที่ผมต้องการเป็นอันดับแรกดูก่อน

เรื่องของการกันน้ำ มีการบอกไว้ว่า สามารถกันน้ำได้ลึก 30 m

เรื่องของการทนต่อการหล่น บอกไว้ว่า สามารถทนต่อการหล่นจากที่สูงได้ 2 m

มาทำความเข้าใจกันทีละเรื่องก่อน

เรื่องกันน้ำ ตัวกล้องออกแบบด้วยค่า IP68 แสดงว่า กันน้ำระดับ 8 และ กันฝุ่น ระดับ 6 ทำให้ถ่ายใต้น้ำได้ลึก 30 m เป็นเวลา 60 นาที ถ้าลึกหรือนานกว่านั้นที่ความลึก 30 m โอกาสน้ำเข้าจะมี

เท่าที่ดำมา 30 m นาหนึ่งชั่วโมง ก็ไม่ใช่การดำน้ำธรรมดาแล้วล่ะครับ เพราะถ้า open water ปกติก็ดำกัน ไม่เกิน 18 m

ถ่ายภาพใต้น้ำสวยๆ

ถ่ายภาพใต้น้ำสวยๆ

แต่การใช้งานไม่ได้บอกว่า จะรับประกันทุกกรณีการใช้นะครับ เพราะ ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า

1. ห้ามดำลึกกว่า 30 m

2. ห้ามใช้งานต่อเนื่องใต้น้ำนานกว่า 60 นาที

3. ช่วงอุณหภูมิใช้งาน 0-40 C

4. ห้ามใช้งานที่น้ำพุร้อน

5. ห้ามเปิดฝาขณะอยู่ใต้น้ำ (อันนี้ควรรู้อยู่แล้ว)

6. ห้ามให้กล้องรับแรงกระแทกขณะใช้งาน  อย่ากระโดดลงน้ำพร้อมกับกล้อง หรือ ให้กล้องอยู่ในสภาวะที่น้ำมีแรงดันสูง ดังนั้น ค่อยๆ หย่อนลงหรือ กันกล้องดีๆ ตอนโดดลงน้ำ (Giant strike)

7. กล้องไม่ลอยน้ำ เมื่อเทียบกับ กล้องที่ใส่ housing แล้ว กล้องจะจมเร็วกว่า ดังนั้น ระวังด้วย

เรื่องการกันกระแทก การกันกระแทกนี้ ทำการทดสอบใน lab ของ Nikon เอง โดยให้ตกจากความสูง 210 cm บนไม้อัดหนา 5 cm อันนี้ Nikon ไม่ได้คิดเอง แต่ เป็นไปตาม มาตรฐาน MIL-STD 810F Method 516.5-Shock ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบของกระทรวงกลาโหมของ USA
โดยการทดสอบนี้ จะเป็นการปล่อยกล้อง 5 ตัวลงมาด้วยทิศทางต่างๆ 26 ท่า (ขอบ 8 มุม 12 และ ด้าน 6 ท่า) จากความสูง 122 cm โดยดูว่า กล้อง 1-5 ตัวต้องผ่าน ถ้ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น กล้องอีกห้าตัวจะถูกส่งมาทดสอบ เพื่อให้มั่นใจว่า 1-5 ตัว ผ่านการทดสอบ

ขนาดและการจับ เรื่องนี้ จำเป็นสำหรับผมมาก เพราะว่า ผมใช้งานทั้งขี่มอเตอร์ไซต์ และ ดำน้ำ ซึ่งใส่ถุงมือทั้งคู่ ชนาดกล้องประมาณ 110.4, x66.0, x26.8 มม. (4.4, x2.6, x1.1 นิ้ว)  ตัวเครื่องมี หูสำหรับ ร้อยเชือกห้อยคอ ซึ่งใช้งานจริง ผมคงต้องใส่ เชือกที่เป็นห่วงคล้องมือด้วย เพราะ ใช้บ่อยกว่า

เทียบขนาดเมื่อถือด้วยมิอข้างเดียว เพราะหลาย shot ผมต้องถ่ายตอนขี่มอเตอร์ไซต์

เทียบขนาดเมื่อถือด้วยมิอข้างเดียว เพราะหลาย shot ผมต้องถ่ายตอนขี่มอเตอร์ไซต์

ตัวกล้องลื่นๆ แต่มี Grip สำหรับ จับด้วยมือขวา แน่นหนาทะมัดทแมง ปุ่มกดแต่ละปุ่มต้องออกแรงกด โดยทำปุ่มที่ใช้งานบ่อย มาให้ที่ด้านซ้ายของกล้อง ที่เป็นปุ่มใหญ่สามปุ่ม
สามปุ่มนั้น มีหน้าที่ดังนี้
ปุ่มบนสุด เป็นการเข้าสู่ แผนที่ Digital ที่ติตตั้งไว้ในเครื่อง และ สามารถแสง เข็มทิศ ได้ด้วย เรียกได้ว่า ไม่ต้องกลัวหลง
ปุ่มกลาง เป็นการจัดการเกียวกับ เรื่องการเชื่อมต่อ WiFi ไว้ ใช้งานแล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ
ปุ่มล่าง เป็นการสลับโหมดการทำงานจากการกดปุ่มเป็นแบบสั่งการด้วยการเคลื่อนไหว เช่น สั่น หรือ เอียงเครื่อง ซึ่ง ในแง่ของ Adventure คิดว่า mode นี้ จำเป็นครับ แต่ สั่งด้วยการเคลื่อนไหวแบบนี้ จะได้เป็นบางอันที่ใช้บ่อยนะครับ ไม่ใช่ทุก function

ตัวปุ่มกันน้ำ สามปุ่มใหญ่ด้านข้าง

ตัวปุ่มกันน้ำ สามปุ่มใหญ่ด้านข้าง

การเชื่อมต่อกับไร้สาย

หลังจากกล้องตัวที่แล้วของ Cannon ซึ่งมี Wifi เชื่อมต่อ ทำให้ สามารถโอนภาพจากกล้องเข้า smartphone ได้ ทำให้สามารถ นำไปอวดกันใน โลก Social ทันที ผมเลยคิดว่า Function นี้ เป็น Function จำเป็นของผมไปแล้ว
ทางเลือกนึงสำหรับคนที่ใช้กล้องแบบไม่มี Wifi ก็คือ ใช้ SD Card แบบที่มี Wifi ในตัว เท่าที่สอบถาม 16 GB ก็ราคาอยู่ที่ พันกว่าบาทครับ
สำหรับ Nikon AW130 ตัวนี้ ให้ wifi มาเลย แถมให้ NFC มาด้วย (อ่านเพิ่ม NFC คืออะไร)

เชื่อมต่อไร้สายแล้วได้อะไร ถามผมก็ตอบง่ายๆ ดังนี้ครับ

1. ดูภาพในกล้อง (ปกติดูจากกล้องก็ได้ แต่ ถ้าจอใหญ่ไม่สะใจ ก็เอามาดูใน tablet หรือ มือถือแทน)
2. โอนภาพที่ต้องการ เข้ามา smartphone หรือ tablet โดยดูแล้วเลือกไว้ หรือ จะโอนมาหมดเลยก็ยังได้
3. สั่งการกล้องจากโทรศัพท์ อันนี้ ถ้ามี ขา selfie ก็ใช้มือถือเป็น remote ได้เลยครับ

การเชื่อมต่อ  วิธีการไม่ยากครับ

1. ทำการ load App ชื่อว่า Wireless Mobile Utility ซึ่งมีทั้งบน Android และ iOS ลงใน smart phone ก่อน

2. กดปุ่มเชื่อมต่อไร้สาย (ปุ่มกลางที่อยู่ด้านซ้าย) ของกล้อง หน้าจอที่กล้องจะแสดง ชื่อ ID ของ กล้องขึ้นมา

3. กดปุ่ม wifi บน smartphone และ ทำการ pair โดยทำการ pair ให้ตรงกับ ชื่อ ID ของกล้อง

4. เปิด App ตัว wireless mobile utility บน smartphone โดย ให้ โปรแกรมนี้ อยู่บนจอนะครับ ไม่ใช่ เปิดแล้ว ไปเล่น facebook หรือ app อื่น การอยู่หน้าจอ จะเป็นการ active ตัว app ให้ทำการเชื่อมต่อกับกล้องอย่างสมบูรณ์

5. บนหน้าจอ smartphone จะมีคำสั่งให้เลือกสองอันคือ เป็น remote กับ การ View ภาพ

6. บนหน้าจอ กล้อง จะมีคำสั่งในการ ส่งภาพ หรือ ให้เลือก แล้ว mark เพื่อทำส่งทีละหลายๆ ภาพ

ผมจะเน้น Function ที่ผมมองว่า แปลก และ น่าสนใจก่อนนะครับ ส่วนเรื่องพื้นฐาน ก็จะเล่าหลังๆ เดี๋ยวจะมาเล่าต่อ ถึงการสั่งการด้วยการเคลื่อนไหว ซึ่งผมมองว่า เป็น Function ที่ออกแบบมาสำหรับ การผจญภัยครับ
(ยังไม่จบครับ จะมา reivew ต่อเรื่อยๆ)  เข้ามาอ่านแล้ว ลงชื่อให้ความเห็นไว้นะครับ

Download ฟรี Sticker แอบรัก ออนไลน์


สำหรับระบบ iOS
สำหรับระบบ Android
สำหรับระบบ window mobile

ยังไม่มีครับ
มีแต่แบบ แปะกาว …^^

image

ที่มาของกรรม


ขำขัน เรื่องที่มาของ “กรรม”

โดนฆ่าตาย “ฆาตกรรม”

โดนตบตาย “หัตถกรรม”

โดนกัดตาย “ทันตกรรม”

โดนยาตาย “เภสัชกรรม”

โดนรถชนตาย “ยนตรกรรม”

ขยันจนตาย “อุตสาหกรรม”

โดดตึกตาย “กายกรรม”

โดนด่าจนตาย “วาทกรรม”

สะดุดพู่กันตาย “ศิลปกรรม”

โดนข่มขืนทางใจตาย “จิตรกรรม”

โจรขโมยของจนตาย “โจรกรรม”

โดนนายช่างฆ่าตาย “วิศวกรรม”

โดนมีดหมอตาย “ศัลยกรรม”

โดนผักตบตาย “เกษตรกรรม”

โดนรูปปั้นหล่นใส่หัวตาย “ประติมากรรม”

ทรมานจนตาย “ทารุณกรรม”

กฎหมายเอาผิดจนตาย “นิติกรรม”

จัดงานจนตาย “มหกรรม”

ดราม่าจนตาย “วรรณกรรม”

ทำงานจนตาย “กิจกรรม”

โดน….หลอกจนตาย “เวรกรรม”….

What is life?


อะไรคือ”ชีวิต”

Weekend นี้ ผมได้นั่งดูหนังดีๆ สองเรื่องครับ

 

เรื่องแรก เป็นเรื่องของ ผู้ชายคนหนึ่งชือ Mitty ที่เป็น Manager ห้องเก็บ film ของ นิตยสาร Life และ สภาพโลก online ทำให้ ตัวนิตยสาร ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ และ จะตีพิมพ์ เล่มสุดท้ายออกมา …
ตัวหนั่งเป็นเรื่องของการตามหาสิ่งๆ หนึ่งที่ เป็นส่วนสำคัญ ของ นิตยสาร ฉบับสุดท้ายนั้น หนังกำกับ และ เล่นโดย เบน สติลเลอร์

โดยปกติผมไม่ชอบหนังของเบน เท่าไหร่ เพราะหนังเค้าทำผมขำไม่ค่อยขำ และ หนังเรื่องนี้ เบน กำกับเอง …แต่ระหว่างดู ผมพบว่า ตัวหนัง มีความสวยงาม การถ่ายทำ ที่ พึงพา CG น้อยลง นำเอา ความเป็นธรรมชาติ เข้ามาให้เห็นแบบตะลึง … ให้ดี ต้องดูในโรงภาพยนต์ หรือ ไม่ก็ HD จอใหญ่ๆ หน่อย ภาพจะงามมากครับ

เบน ทำหนังเรื่องนี้ออกมาดีมาก …. ฉากทิวทัศน์ เมือง หลายๆ ที่ในหนัง ทำเอาผมอย่าก pack ของออกเดินทางจริงๆ

หนังดีครับ ควรดู ครับ อย่าพลาด

 

 

อีกเรื่อง เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้ เพื่อการมีชีวิตรอด

เรื่องนี้ คนเล่น คนเดียวเลยครับ ทั้งเรื่อง บทพูดแทบไม่มี เลยต้องนำดาราระดับเทพ มาเล่น

All is lost คือ หนังเรื่องนั้น อยากให้ หามาดุกันครับ

 

 

 

 

หนังน่าดู ปี 2014


ปี 2014 คอหนังคงต้องเก็บตังส์ เยอะ หน่อย เพราะหนังดีๆ เยอะมาก
ตัวอย่างที่เอามาให้ดูมีหลายเรื่องเลยครับได้แก่

47 Ronin หนังของคีนู ที่นานๆ จะมีให้ดูที -ฉายแล้ว
300 Rise of an Empire หนัง Art ภาพสวย ภาคต่อ ที่น่าดูก่วาภาคแรก
Captain America The winter soldier ฮีโร่ ย้อนยุค ที่ตอนนี้มาเล่นยุคนี้อย่างเต็มตัว
Grudge Match มวยคุณปู่รุ่นเดอะ
Hercules -ฉายแล้ว- บอกได้เลยว่า ตัวอย่างหนังคือ ทั้งหมดที่หนังมี
Homefront หนังแอคชั่น กับบทบาทของวีโรน่า ที่นานๆ ได้เห็นงานเธอ
i Frankenstein -ฉายแล้ว- หนังแนว Blade กับ CG แทบทุกแาก แต่หลายฉากดูเหมือน Game
Jack Ryan: Shadow Recruit -ฉายแล้ว- หนังสนุก กับบทยุคแรก ของ Jack
Lone Survivor -ฉายแล้ว- เรื่องจริงที่เอามาทำหนังได้สนุก และ น่าเห็นใจหน่ย SEAL
Mortar combat : Legacy II หนังที่จำไม่ได้แล้วว่าภาคไหน แต่ ไม่ว่ากี่ภาคก็ดูไม่สนุกสักภาค
Need for speed หนังชื่อเดียวกับเกมส์ดัง ที่ Show การขับรถไล่ล่าได้มันส์มาก
Non Stop หนังที่ผมอยากดูมา กับการขู่จี้เครื่องบิน
Pompeii เพียง 48 ชั่วโมง เมืองทั้งเมืองหายไปในพริบตา
Robocop -ฉายแล้ว – กับงาน remake ชั้นดี ของ Robocop ทีมงานตั้งใจทำออกมาให้เข้ากับยุคปัจจุบันครับ
Seventh Son หนังแนวแฟนตา สวยๆ แนวแอคชั่น
The Elder Scrolls ดูเร็วๆ จะแยกไม่ออก เพราะ CG เนียนๆ กับฉากเปิดตัวสามคนเก่งของเกมส์ online
X-Men ภาคนี้ตัวละครเดิมครบแถมมีตัวเพ่ิมอีกหลายตัว

ตัวอย่างทั้งหมดดูเพลินๆ ครับ