Archive for กุมภาพันธ์, 2009

Trip 01/2009 เรื่องขี้ๆ ก็เป็นกลยุทธ


เรื่องคำสาบนี่ มีตำนานอยู่หลายที่นะครับ
นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่ง
ว่ากันว่ามีหนุ่มจากไทย ข้ามฝั่งมาที่ ลังกาวี และ ได้ภรรยาเป็นคนที่นี่
จากนั้นได้กำเนิดบุตรสาวที่ เมื่อโตขึ้น มีความงาม เป็นที่โจษจันทน์กันไปทั่ว

นามว่า นางมัสซูรี

IMG_4958
นางมัสซูรี นี่ ว่ากันว่าสวยงามกว่าหญิงใดๆ
เรื่องรู้ไปถึง น้องชายเจ้าเมืองใหญ่ จึงได้เดินทางมาพบ และ ต่อมาก็รักกันและได้ทำการสมรสด้วยกัน

ทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุข
แต่ต่อมา เจ้าชาย พระสวามี มีภารกิจต้องออกไปรบที่หัวเมือง ตอนที่พระนางกำลังตั้งท้อง
ทำให้ต้องคลอดโดยไม่ได้มี สวามีมาให้กำลังใจ
สร้างความทุกข์ให้พระนางยิ่งนัก

ความงาม และ ความดี ของนางถึงมีมากอย่างไร ก็ ยังมีคนที่คิดไม่ดี อิจฉาริษยาอยู่ เพราะพระนางให้กำเนิดบุตรชาย

จริงๆ แล้วพระนางมัสซูรี จะเป็น พระชายา ครับ แต่ พอให้กำเนิดบุตรชาย ก็มีโอกาสเป็น ปะไหมซูหรี ซึ่งเป็นตำแหน่ง เมียใหญ่

ความอิจฉาริษยา ก็เกิดแก่คนอีกกลุ่ม

IMG_4962

ครานึง มีคนรอดตายจากเรืออัปปาง และ ได้ พระนางช่วยเหลือเอาไว้
หนุ่มคนนั้นได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของพระนาง ..เรื่องแว่วไปถึงหู นางที่ริษยา พระนางอยู่
จึงได้ใส่ร้าย ว่า พระนางคบชู้ นำชายอื่นไว้ในบ้าน ช่วงที่สามีไปออกศึก

เรื่องอย่างนี้ ที่นั้นเค้าเล่นกันแรง โทษของพระนางจึงถึงซึ่งประหาร
เพชรฆาต ใช้ดาบแทงพระนาง หมาย ปลงพระชนม์ แต่ แทงไม่เข้า
จนต้องอัญเชิญ กริช ของราชวงศ์ มาแทง

นางอธิษฐานไว้ ว่าถ้าไม่ผิด ขอให้เลือดออกมาเป็นสีขาว
เลือดที่พุ่งออกมานั้นกลายเป็นสีขาว เป็นเครื่องหมายความบริสุทธิ์ของพระนาง

ก่อนพระนางจะสิ้นพระชนม์นั้น ได้ สาปเอาไว้
ด้วยเหตุที่ พระนางต้องสิ้นพระชนม์ ทั้งๆ ที่ไม่ผิด
ให้ลังกาวี ตกต่ำ ไม่พบกับความเจริญ ไปอีกเจ็ดชั่วโคตร…

 IMG_4971

เจ็ดชั่วโคตร Later…

ลังกาวี เค้าเจริญแล้วครับ พี่ป๋องเลยมาเที่ยวอยู่นี่ไง
แล้ววันนี้ก็ได้มาดู Aquarium ที่นี่ด้วย ไม่ใหญ่ไม่โต ครับ พอๆ กับบ้านเราในหลายๆ ที่
ยกเว้นที่ Paragon ที่จนแล้วจนรอดไม่เคยได้เข้าไปสักที เพราะ เข้าไปทีไร ก็เลี้ยวเข้าโรงหนัง ทุ้กกกกที

IMG_4972

ออกจาก Aquarium ก็ พาไป ที่บ้านของพระนางนี่แหล่ะครับ
กลายเป็น Point of interest อีกจุดหนึ่ง
เห็น ไกด์ กระซิบว่า ตอนแรก เล็กครับตอนหลังก็สร้างกันใหญ่โต … ส่วนใหญ่ก็เงินคนไทยที่มาเที่ยว มาซื้อของนั่นแหล่ะครับ
ด้านในก็จะมีบ้านไม้ และ บ่อน้ำ ที่ว่ากันว่า ศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีมานาน และ ไม่เคยแห้งเลย

 IMG_4998

โปรแกรมมาเสร็จสิ้น เอามื้อเย็นสุดหรู และ รายการ shopping ที่มีร้าน Duty Free เปิดอยู่
ตัวห้างมีสองชั้นครับ
ของไม่ได้เยอะมากมายอะไรครับ หลักๆ ก็ จะเป็นพวก เหล้า Wine ที่ราคา ถูกกว่าบ้านเราค่อนข้างมาก
ด้านบน ก็จะเป็นพวกของเล่น น้ำหอม กระเป๋า
ส่วนนาฬิกา ดูแล้ว รุ่นไม่ค่อยใหม่ และ ราคาไม่ได้หนีกันกับเราเท่าไหร่
งานนี้ เลย ใช้เงินจับจ่ายไปไม่มากนัก
เรียกว่า "สบายใจจัง ตังส์อยู่ครบ" ประมาณนั้นเลย

IMG_5007

ตอนจะกลับนี่ล่ะครับ วุ่นๆ กันหน่อย เพราะ พอพี่ๆ เค้าขึ้นรถหมดแล้ว เราจะขึ้นไปคนสุดท้าย
มีอันต้องชะงัก เพราะ โสตสัมผัสด้านกลิ่น มันตรวจจับกลิ่นประหลาดได้
"ใครเหยียบขี้ ขึ้นรถมาครับ…." ปากไว โดยไม่สงวนท่าที ของพี่ป๋อง ทำเอา พี่ๆ ในรถ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก
โห นั่งเหม็นกันอยู่ได้ ไม่มีใครทักใคร พอ ทักขึ้นมา ทุกคน เช็ครองเท้ากันเป็นแถว
"ว้าย..ตายแล้ว เหยียบมาตอนไหนเนี่ย…" เสียง แจ้ว จาก "พี่คนนึง" ดังมาจากท้ายรถ
สิ้นเสียง เจ้าตัว รีบลงจากรถ ไปทำการล้างซะ
หลังจากนั้น ปรากฏว่าเจ้าของรถ ต้องเอาผ้ายางที่ปู ไปทิ้งอยู่หลายชิ้น เพราะ "สะเก็ดระเบิด" ที่ปรากฏ อยู่ ตลอดทางที่"พี่คนนั้น" เดินไป ยังคงทำงานอย่างได้ผลดี เพราะส่งกลิ่น ตลอดเวลา…

อันนี้ถ้ามองเป็นกลยุทธ จะเห็นว่าเจ้าของรถ สามารถแก้ปัญหา ลูกทัวร์บ่น ว่า แอร์ไม่เย็น ได้อย่างชะงัดนัก
เพราะทุกคนนอกจากจะเลิกบ่น เรื่องแอร์แล้ว ยังพร้อมใจกันเปิดหน้าต่างรถ วิ่งไปจนถึงที่พัก
…ลงทุนเสียแค่ผ้ายาง ปูพื้น ไม่กี่แผ่นเท่านั้นเองครับ เหอ เหอ…

……………………………………………………….(จะลากจุดทำไม)

เป็นอันว่าจบ Trip หนึ่ง Trip แรกของปีนี้นะครับ ที่ติดไว้ ไมได้เขียน ซะข้ามเดือน
ใครเข้ามา แล้วงง ก็กลับไปอ่านได้ครับ
ตอนหนึ่ง Trip แรก
ตอนสอง รักเด็ก
ตอนสาม เกาะลังกาวี

 

สนใจเรื่องพระนางมัสซูรี เห็นน้องคนนึงเล่าไว้อ่ะครับ ลองไปอ่านดูที่ Link นี้ครับ

Happy Birthday To ME


…เป็นคนระมัดระวังตัวครับ ทำอะไรก็เลยต้องมีสองแผนอยู่เสมอ… เรียกเล่นๆ ว่า Plan B
Plan A เป็นหลัก Plan B เป็นแผนสำรอง

เวลาที่ Plan A ไม่ Work ก็จะได้ งัด Plan B มาใช้

อย่างเวลาไปดูหนัง ถ้า หนังที่ตั้งใจจะดู ไม่มีรอบ ก็ จะเลือกอีกเรื่องไว้…
ไปกินข้าว ก็ จะเผื่อไว้สองร้าน…
ซื้อของ ก็ จะมีทางเลือกไว้สองรุ่น
แต่มีอยู่อย่างที่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นทางเลือกเลย…
นั่นคือ…วันเกิด..ที่กำลังจะมาถึงนี่แหล่ะครับ

happy birthday

พ่อเคยบอกว่าจริงๆแล้ว…พี่เกิดวันที่ 25 กุมภา
แต่ตอนเกิดสงสัยที่บ้านมัวแต่ดีใจ (จริงๆ แล้วอาจจะตกใจ) เลยลืมไปแจ้งเกิดที่อำเภอ
กว่าจะนึกขึ้นได้ ก็ช้าไปหลายวันซะแล้ว
อา.. เป็นคนไปแจ้ง พอแจ้งช้าวันที่แจ้งเกิดที่อำเภอ เลยกลายเป็น 28 กุมภา ล่าช้าไปสามวัน…
วันเกิดอย่างเป็นทางการเลยเป็นวันที่ 28 ไปซะ..เคยมีคนรู้จักหลายคน ก็ ประมาณว่ามีวันเกิดสองวันเหมือนกัน
นี่…ยังดีที่ตอนเกิด เดือนกุมภาปีที่เกิด ไม่ได้มี 29 วัน…
ไม่งั้น ได้ฉลองสี่ปีครั้งแน่ๆ…เหอ เหอ

SP_A0212 SP_A0211

ปีนี่เป็นปีแรกที่ ไม่มีพ่อ อยู่ด้วย
ชีวิตมันขาดอะไรไปบางอย่าง

ชอบนึกถึงตอนแกล้งพ่อ อย่างตอนอยู่โรงบาล เอารองเท้าก๊อตซิล่าไปใส่ให้พ่อ

แกคงงง นิ ตื่นมา เท้าเป็นอย่างนั้น

คงนึกว่าเราคงพิเรณ แต่ ก็ขำดี (คงไม่บาปหรอก)

เลยตั้งใจว่าจะไปนอนเล่นที่บ้านพ่อ…อยู่คนเดียว
ไปนั่งเล่นนอนเล่น คิดถึงพ่อ…ยิ่งนึกถึงเรื่องต่างๆ ตั้งแต่จำความได้ ที่พ่อทำให้แล้วยิ่งคิดถึง

…เกิดมาได้ก็เพราะพ่อ…

IMG_5262
แต่วันนึงวันนี้พ่อก็ไม่อยู่กับเราซะแล้ว…ToT
นึกแล้วก็คิดถึงพ่อมากมาย…
ใจนึงก็กลัวว่าไปนอนบ้านพ่อจะฟุ้งซ่าน…จิตตกซะก่อน
เอ…หรือว่าไม่ควรไปเก็บตัวอยู่คนเดียวดีหว่า วันเกิดทั้งที…?
เพื่อนๆ ก็มีตั้งเยอะ…

Picture 019 IMG_0122 IMG0030 

เอ หรือไม่ ก็ ไปออกกำลัง หาอะไรบ้าๆ บอๆ ทำ บ้าพลังกันไปเลย

 

 IMG_1208 IMG_0901IMG_1543

ยังเหลืออีกไม่กี่วัน ยังมีเวลาคิดตัดสินใจ… หรือไม่ก็ หนีไปเที่ยวไกลๆ ก็น่าจะดี

 

IMG0018    IMG_1581 OQCfjl947044-02

…สองสามวันนี้คงมี idea บ้างแหล่ะ…

…นี่ก็พักร้อนไว้เรียบร้อยแล้ว …

ตั้งใจว่าวันเกิดจะเป็นวันที่ไม่ทำงาน แต่ก็ยังเอางานเอาการนะครับ  (ตามคำแนะนำของน้องคนนึง ก่อนหน้านี้)
กะว่าจะเป็นวันของเราจริงๆ สักวัน

ถือเป็นการย่างเข้า 42 อย่างง่ายๆ แฝง Style ละกันครับ

===============================================

หมายเหตุ: Trip ลังกาวี ตอนจบ ยังเขียนไม่เสร็จ วันนี้มีอารมณ์ เขียนเรื่องนี้แปะไว้ก่อน เดี๋ยวลืม

อ่านตอนที่แล้ว เกาะลังกาวี

 

Trip 01/2009 ตอนสาม เกาะลังกาวี…


มาถึงสตูล แล้ว ก็อดไม่ได้หรอกครับ ที่ต้องไปต่อ

มาถึงนี่แล้วนี่ครับ …สอบถามอาจารย์ว่าไปไหนดี

อาจารย์บอกว่า อย่างนี้ต้องไป เกาะลังกาวี Langawi ที่มาเลย์นั่นเลย

น่าไปยังไงเหรอครับ ก็ ที่นั่นเป็นเกาะที่ประเทศมาเลเซีย เค้าทำเป็นเมืองปลอดภาษี

ดังนั้นขา shop ทั้งหลายน่าจะถูกใจกัน

ไม่ต้องคิดกันมากครับ เพราะ สาวๆ ใน Gang นี่ชอบ shopping กันอยู่แล้ว คืนนั้นเลยนัดแนะ Guide มา พร้อมกับ วันรุ่งขึ้นก็เดินทางกันเลย

คืนนั้นเราเช่าบ้านสามหลัง พักกัน จนรุ่งเช้า

เตรียมตัวไปเที่ยวแต่เช้าเลย...

ตื่นเช้าอากาศดี แดดแรงใช้ได้เลยครับ บรรยากาศแถวนี้เขียวได้ใจดี เลยใส่เสื้อผ้าสีเขียวให้เข้ากับบรรยากาศซะเลย

ออกแนวอนุรักษ์มั้ง…เหอ เหอ

มาลังกาวี ต้องนั่งเรือครับ …

ขั้นตอนการเดินทางเหมือนไปต่างประเทศ ทุกประการ เพราะต้องทำหนังสือเดินทางด้วยเหมือนกัน

ลงเรือไปเกาะลังกาวี IMG_4742

แต่มากับ Guide ก็ไม่ต้องกลัวครับ ทุกอย่างเค้าบริการให้เรียบร้อย นั่งเรือไป

เรือใหญ่ครับ ติดแอร์ไม่มีร้อน ด้านบนดาดฟ้า มายืนถ่ายรูปได้ตามใจ

ลังกาวี ไม่ไกลครับ ประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงเกาะลังกาวีสัญลักษณ์สังเกตง่ายๆ เห็นแต่ไกล ก็ นกอินทรีย์ ตัวใหญ๋ยักษ์ หน้าเกาะเนี่ยล่ะครับ

IMG_4744 Langkawi

เมืองนี้ไม่ใหญ่ไม่เล็กนะครับ แต่ ทำไว้เหมือนเป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้น เลยมีจุดน่าสนใจหลายจุด

Guide พาเราไปที่ Geopark ระหว่างทางจะผ่านสนามบินครับ จังหวะดีๆ จะเห็นเครื่องบินขึ้นลง เป็นที่ตื่นตา ตื่นใจ เพราะ ถนนที่วิ่ง กับ Runway นั้นขนานกัน โดยรถจะต้องวิ่งไปตัดที่ปลาย Runways

ตอนที่มานี่เห็นทั้ง เที่ยวไป เที่ยวกลับเลยครับ แต่ เป็นเครื่องบินเล็ก เข้าใจว่าคนมาฝึกขับเครื่องบินที่นี่เยอะ เหมือนกัน

นั่งกันสบายๆ แต่เสียอย่างเดียว รถแอร์ไม่ค่อยเย็น

เห็นว่าเป็นรุ่นพิเศษน่ะครับ เวลาอากาศข้างนอกเย็น ข้างในจะเย็นกว่า

พออากาศข้างนอกร้อน ข้างในจะร้อนกว่า …ซะงั้น

 IMG_4781 ทางเข้า Geopark ครับผม

จุดเที่ยวจุดแรก เค้ามาที่ Oriental Village ครับ ในนี้มี การตกแต่งสวยงามน่าสนใจ

ตึกสีสวยๆ สะพานสีสดๆ เหมาะแก่การชักภาพ

ถ้าใส่เสื้อแดงมาล่ะก็ คงเข้ากันน่าดู IMG_4786 อาคารใน Geopark สีสันแสบทรวงดีแท้

มาที่นี่วัตถุประสงค์หลัก คือ การมาขึ้น Cable car

Cable car ที่นี่ไม่ธรรมดานะครับ เพราะ สูง เกือบ กิโล แน่ะ…

สาย Cable ที่ลากสูงขึ้นไป จะเป็นขยักๆ ถึงสองสถานี

จะแวะหยุดตรงสถานีเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระทึก ก็ไม่เลวครับ

คณะเราหลังจาก ได้ตั๋ว ชักภาพเป็นที่เรียนร้อยแล้ว ก็เป็นกระบวนการท้าความเสียว

จริงๆ แล้วมันก็ไม่เสียวหรอกครับ สำหรับคนปกติ แต่ สำหรับคนกลัวความสูง เฮอะ เฮอะ ก็ เสียวเอาเรื่องอยู่

ดังนั้น พี่ๆ เลยหายไปสองสามคนครับ ยอมสละตั๋ว ที่ จองไว้ ให้เป็นของชำร่วยกับ Guide ดีจริงๆ

 DSC07149 IMG_4795  IMG_4796

 

เวลาขึ้นแวะที่ station ก่อนก็ได้ครับ เพราะ จะสะดวก เพื่อที่จะได้ถ่ายรูปในแต่ละจุดกันก่อน

เพราะถ้าแวะขาลง กระเช้ามันอาจจะไม่ว่าง ให้นั่งไปครับ

IMG_4812IMG_4837 IMG_4872

เทคนิคการชึ้นกระเช้า ต้อง ขึ้นตอนที่มันวิ่งๆ อยู่นี่แหล่ะ

เพราะ สาย cable จะออกแบบให้ กระเช้า เคลื่อนที่ช้าลงตรง station แต่ ไม่ได้หยุด

ดังนั้น ใครลังเล อาจขึ้นไม่ทันได้นะครับ

วิวข้างบนสวยจริง ครับ คุ้มที่ได้มา

IMG_4865 IMG_4824 IMG_4854

 

เนื่องจากเที่ยวกันสบายๆ เลยไม่ได้ดูเวลา

กลับมาที่ รถ คนขับบอกว่า เอาไปเติมน้ำยาแอร์มาเรียบร้อย แต่ไม่เห็นมันจะเย็นกว่าเดิมเลย…

หรือว่า เวลาข้างนอกร้อน มันจะร้อนกว่าจริงๆ …

คณะเดินเล่น กว่าจะเสร็จ ก็ปาไปบ่ายสองกว่า ได้ทานข้าวกลางวันกัน ล่อไปเกือบบ่ายสาม

โดยมาทานข้าวกันที่ underwater world ครับ …มาดูปลา

ที่ Paragon ยังไม่เคยดูเลยครับ ถ่อมาดูกันถึงที่นี่ อย่างงี้แหล่ะ เค้าเรียก ใกล้เกลือ กินด่าง

เช่นเดิมครับ Guide เตรียมตั๋วเข้าไว้ให้เรียบร้อย

IMG_4891 IMG_4895 DSC07172

โลกใตทะเลนี่มัน สงบ และสวยงามจริงๆ

ปลาเหล่านี้ มันจะรู้จักความวุ่นวาย บนโลกข้างบนบ้างมั๊ยน้อ…

ชีวิตที่ “กิน” และ “ล่า” เพื่อการยังชีพ ไม่ใช่เพื่อ “กีฬา” เหมือนมนุษย์

IMG_4920 IMG_4918 IMG_4939

เที่ยวมาขนาดนี้ ยังไม่หมดวันดี แต่ หมดแรง up แล้วคงต้องมาต่อตอนหน้าอีกตอน…

Trip 01/2009 ตอนสอง – รักเด็ก


อ่านตอนที่แล้ว

ทานข้าวกลางวัน ที่นกน้ำรีสอร์ท ที่นี่ต้องมาตอนเย็นครับ เพราะ จะมีนกเป็ดน้ำ ด้วย

นกเป็ดน้ำจริงๆ นะครับ บินอยู่ในบึงข้างๆ

ไม่ใช่นอนอยู่บนจาน….

ผอ.โรงเรียนมาร่วมรับประทานอาหารด้วยครับ จากนั้น พวกเราก็เข้าไปที่โรงเรียนกัน

IMG_4558 IMG_4559

นักเรียน และ ผู้ปกครอง ดีใจ มารอกัน

มากันหมดเลย อบต ก็มา มากันจนเขิน

 

IMG_4562

IMG_4564

คณะครูอาจารย์มาต้อนรับกันอบอ่นจริงๆ เห็นแล้วขนลุก ด้วยความปิติ ทั้ง ผอ และ อดีต ผอ คณะครูบาอาจารย์ อบต และ คนสำคัญๆ ในวงการศึกษาท้องถิ่นที่นั่นมากันหมด

นี่ยังนึกๆ เลยว่า เค้ามารอเราแต่เช้าเลยหรือเปล่าไม่รู้

น้ำเย็นๆ และ ลอดช่องหวานอร่อย ถูกเสริฟ ต้อนรับ ให้ความหวาน เย็น ชื่นใจ เหมือนน้ำใจของ คนที่นี่…

คณะเราที่อดนอน ตื่นเช้า และ เริ่มเพลียกับการเดินทาง พลัน หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

พี่ป๋อง …ซัด ..โฮกเดียวเกลี้ยงถ้วยเลยครับ

IMG_4568  IMG_4578 IMG_4580

ครูอาจารย์ที่นี่ต้อนรับอบอุ่นมากๆครับ ครับ ทำให้รู้สึกว่า เป็น VIP มากๆ

ตอนอาจารย์ กล่าวเล่าประวัติที่มาของโรงเรียน และ ตอนที่พี่หนิง ขึ้นไปพูดทำให้เพิ่งรู้ประวัติ ว่ามีโรงเรียนนี้สร้างมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2513 …

สร้างโดยตำรวจชายแดน โดยเงินที่สมาคมฯ ได้ มอบให้กับสมเด็จย่าฯ ซึ่งได้โปรดเกล้าพระราชทาน ชื่อโรงเรียนให้เป็น โรงเรียนสมาคมเลขานุการสตรี 3 หลัง โรงเรียนสมาคมเลขานุการ 1 และ 2

DSC07007

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ การสื่อสารภายใน หรือ เป็นเพราะการจดบันทึก ทำให้ โรงเรียนทั้งสามแห่ง เกิดขึ้นมาโดยที่ สมาคมฯ มาทราบเอาภายหลัง…

มาดูแลกันตอนปี 2542 … พี่ป๋องดูแล้ว ที่นี่เป็นโอกาสดีนะครับ เพราะ มีอะไรให้โรงเรียนพัฒนาอีกมาก

ดูแล้วอาจารย์ก็ขยันขันแข็งกันดี …เชื่อว่า อนาคตข้างหน้าทาง สมาคมฯ ก็คงมีอะไรดีๆ มาให้เรื่อยๆ แหล่ะครับ

น้องๆ มายืนรอกันทุกห้องเลยครับ น่ารักดี

….

น้องๆที่นี่มีตั้งแต่ ป 1 จนถึง ป 6

IMG_4596 IMG_4597 พี่ป๋องรักเด็ก

ต้นขนุนสูงใหญ่ต้นนี้ สมเด็จย่าท่านปลูกเอาไว้ครับ สูงใหญ่ให้ร่มเงาดีทีเดียว

IMG_4590

เสร็จธุระจากโรงเรียนก็ชักภาพให้เป็นที่ระทึก หน้าป้ายโรงเรียนกันซะหน่อยครับ

IMG_4614

เนื่องจากออกมายังไม่เย็นมาก อาจารย์เลยพาไปดู “ของดี” แถวโรงเรียนครับ

เป็น “อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะเภตรา” ครับผม

บรรยากการสวยครับ คนไม่เยอะมาก

IMG_4630 IMG_4634 IMG_4636

ก็มีมุมให้พี่ป๋อง ไป Act ท่า ทำหล่อได้หลายมุมอยู่

IMG_4646 IMG_4652 อยู่ตรงหมู่เกาเภตรา 

ตกเย็น ไปทานอาหารกัน อาหารทะเลแท้ๆ บรรยากาศดีมาก

อาหารทะเลที่นี่ สด อร่อยจริงครับ แถม มาจากทะเลจริงๆ กุ้งก็เป็นกุ้งทะเล ไมใช่กุ้งเลี้ยง

IMG_4689

ของเลี้ยงคนที่นี่เค้าไม่ค่อยทานกันครับ เค้าว่ามันไม่อร่อย

พี่ป๋องเลยได้ลาภปาก ทานของอร่อย ไปกับพี่ๆ เค้าด้วย

ทานข้าวไป พร้อมกับ ชมพระอาทิตย์ตกดิน

ก็มีความสุขไปอีกแบบนะครับ

พระอาทิตย์ตกที่ สตูล IMG_4676 IMG_4687 

อาจารย์ที่นีน่ต้อนรับอบอุ่น อิ่มหนำ ทานกันจนเกือบเที่ยงคืน

เพราะมื้อเย็นเสร็จ ก็พากันไปทานชากันอีก

เป็นชาชัก ครับ แต่ตอนไป ไม่ได้ชัก

เพราะ คนเยอะ ถ้าขืนชัก คงรอกันจนชักน่ะครับ

จบการเดินทางวันแรกอย่างอ่อนเพลียไปตามๆ กัน…

Trip 01/2009 ตอนหนึ่ง- ทริปแรก


มกรา เดือนแรกของปีผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ นิ…

รู้สึกว่าทำงานอยู่ไม่กี่วัน (แต่จริงๆ มีเรื่องราว ที่ได้ทำ และ ผ่านมามากมาย) ก็สิ้นเดือนเอาเสียแล้ว

Commitment ที่ให้ไว้กับตัวเอง ว่าจะต้อง Balance ชีวิต ด้วยการไปเที่ยวพักผ่อนเสียบ้าง เกือบจะไม่ได้ทำซะแล้วในเดือนนี้…

ดีนะว่า พี่ๆ WSAT เค้ามีโปรแกรม จะไปทางใต้กัน เลย ได้ ติดสอยห้อยตามไปกับเค้าด้วย

น่าจะนับเป็น Trip แรกของปีนี้ได้เช่นกัน

วิวมองออกไปนอกเครื่องบินตอนเช้า ท้องฟ้าสวยทีเดียว

เนื่องจากเป็น Trip ที่ไกล และ เวลาน้อย การเดินทางเลยโดน set ไว้แต่เช้า

บินเช้าๆ ก็ดีเเหมือนกันนะครับ เพราะ ท้องฟ้ายามเช้านี่สวยมั๊ก มั๊ก…

เช้าที่ว่านี่ ตีห้าต้องไป ยืน แอ่นแอ้น อยู่ที่สนามบินดอนเมืองแล้ว ครับ เพราะ บินกัน Flight เช้า

IMG_4538

พี่ๆ เค้ามากันตรงเวลา งานนี้มากันเรียกว่า ร่วมสมัยเลย เพราะ พี่อัช (อดีตนายกฯ) พี่เนาว์ พี่หนิง (นายกคนปัจจุบัน) พี่อ้อย(นายกฯคนต่อไป)  พี่ไก่ น้องหน่อย น้องเก๋ รวมเจ็ด คน บวกพี่ป๋องเป็น แปด มาถังปุ๊ป เช็คอิน ปั๊ป แป๊ปเดียว ก็มานั่งอยู่บน เครื่อง TG 1231 มุ่งหน้าสู่หาดใหญ่

ครับ เรากำลังจะไปที่โรงเรียนสมาคมเลขานุการสตรี 3 หรือที่เรียก ย่อๆ กันว่า SWAS 3 ที่สตูล กันน่ะครับ

flight 1231 Bkk-Satul

เครื่องยินอยู่ชั่วโมงเศษ เนื่องจากไม่ใช่ Low cost airline เลยมีการเสริฟ ขนมกันเล็กน้อย ยามเช้า

การเดินทางราบรื่นดี ไม่มีอะไรขลุกขลัก มาถึงสนามบิน สตูล ก็มี ครูติ๊ก อาจารย์สาว จากรั้วประสานมิตร พร้อมทีม อาจารย์ นำรถตู้มารอรับ

การต้อนรับเริ่มจากตรงนี้ครับ เพราะ จุดแรกที่ไปคือร้านอาหาร เติมพลังตอนเช้าก่อน ที่ร้าน โชคดี แต่เตี้ยม

ร้านนี้คนแน่นมากIMG_4545 IMG_4546 

ร้านนี้ ไม่เคยมาครับ เพราะมาสตูลกันครั้งแรก แต่ ตะลึงกับความแน่นของร้านจริงๆ

คนไทย และ ชาวมาเลย์ แน่นร้านมากๆ อาหารแนะนำที่นี่จะเป็น บักกุ๊ยเต๋ สนนราคาจานละ 70 บาท ใครไม่เคยทานก็นึกภาพ เหมือน ขาหมูที่เอาไว้ราดข้าว น่ะครับ แต่ จะมีเครื่องเยอะกว่า

นอกนั้นก็จะเป็นพวก ติ่มซำ ซึ่งที่นี่ เดินไปเลือกไว้ บอกเบอร์โต๊ะ แล้วเค้าจะนึ่งให้ทานกันสดๆ เลยครับ

รสชาตก็อร่อยดีครับ ..มิน่า คนถึงได้แน่นร้าน

IMG_4555 DSC06988

เนื่องจากโปรแกรม จะต้องไปถึง โรงเรียนเอาประมาณบ่าย ดังนั้น อาจารย์ เลย กำหนด จุดแวะไว้ ระหว่างทาง

ถือเป้นการแนะนำ “ของดี” ของเมืองนี้กันเลยก็ว่าได้

ที่หาดใหญ่นี่เป็นเมืองคึกคัดนะครับ ผู้คนมากมาย คนมาเลย์ จะเยอะมาก แต่ คณะเราไม่ได้แวะวันนี้ ครับ  อาจารย์พาออกมานอกเมืองกันเลย แล้วก็มี แวะดูร้านขาย เสื้อผ้า กับ ของพื้นเมืองกันนิดหน่อยครับ

…อย่างผ้าบาติก ที่นี่ก็ราคาไม่แพง …

จะถือว่าเป็นร้านบูติก ที่ขายเสื้อผ้า บาติก ก็ได้นะครับ…

ราคาที่นี่ไม่แพงจริงๆ ต่อรองกันได้ เศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ค่อยดี คนขายก็อยากขาย แวะกันพักนึง เห็นหิ้วกลับไปกันคนละหลายๆ ตัว

ก่อนออกจากร้าน เจ้าของร้านที่นี่มีการกระซิบบอกกันด้วยครับ ว่าที่ร้านมีสินค้าแนะนำ…

…เป็นเสื้อ ทำลวดลายออกมาพิเศษ ซึ่ง เป็นเสื้อผู้หญิง แต่กลับขายดีมากในหมู่ผู้ชาย…

งงแมะ…เสื้อผู้หญิง แต่ ขายดีในหมู่ผู้ชาย ที่เป็นอย่างนั้น เพราะ เค้าซื้อไปฝากกันครับ  เห็นว่าชอบซื้อไปฝากภรรยากันเป็นพิเศษ

ตัวลายทำออกมาสวยงามดีครับ …เจ้าของร้านบอกว่า ตอนแรก ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเป็นลายใหม่  แต่ พอทำออกมาขาย ปรากฏว่าขายดีมาก ผลิตแทบไม่ทัน

มาดูก็กลายเป็นว่ามีแต่ผู้ชายมาซื้อไป แต่คนขายไม่สนใจ ใครซื้อ ก็ไม่เป็นไร ทางร้านยินดีขายอยู่แล้ว

จะซื้อไปฝาก ซื้อไปใช้เอง ไม่เป็นไร ขอให้มาซื้อกันเถอะ ซื้อยิ่งเยอะ ยิ่งดี

ตอนนี้ทำออกมาหลายรุ่นแล้วครับ อาจจะเปลี่ยนสี แต่ลายยังคงเดิม เพราะเป็นเอกลักษณ์

… จนหลังๆ ต้องมีชื่อ รุ่นออกมาเรียกให้จดจำ กลัวจะซื้อกันผิด..

ใครอยากซื้อ แวะมาที่ร้าน ก็ถามกันง่ายๆ ครับ บอกว่า ลายขายดี ที่เรียกว่า “ลายผีเสื้อฯ”

แค่นั้นเป็นอันรู้กัน…

เพราะชื่อเต็มเครื่องรุ่นนี้ เห็นคนขายบอกว่า จำง่าย

มาจากชื่อเต็มว่า “เสื้อลายผีเสื้อสมุทร” อ่าครับ 🙂

IMG_4554

เห็นว่า ออกแบบพิเศษ โดยตรงจากชมรมคนรักเมีย น่ะครับ เหอ เหอ…

ไปดูกันดีกว่าว่าเด็กๆ น่ารักขนาดไหน