Highway U Turn
==============
ผมว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่มีที่กลับรถเป็น U Turn เยอะมาก

…ที่น่ากลัวสุดคือ U Turn บนถนน Highway

เพราะรถที่จะกลับรถ จะต้องขับขิดขวา ซึ่งเป็นเลนเดียวกับเลนที่ให้รถวิ่งแซง หรือรถที่มาด้วยความเร็วสูง

8:15 เช้านี้ขณะผมกลับจากไปออกกำลังกายที่สนามกีฬาพระราชวังสนามจันทน์ นครปฐม

ระหว่างขับรถกลับ มองไปข้างหน้า อยู่ๆก็เห็นรถ Taxi ที่จอดอยู่ หมุน ชิ้นส่วนปลิวกระจาย

…ใช่ครับ อ่านไม่ผิดหรอก มันหมุน ปลิวชิ้นส่วนกระจาย จริงๆ….

ไม่รู้เพราะผมดูหนัง Action effect เยอะๆ มาบ่อยๆ หรือ เพราะหลังๆ เห็นภาพอุบัติเหตุ สดๆ ตรงหน้าบ่อยก็ไม่ทราบ เลยทำให้ไม่ได้ตกใจกับภาพที่เห็นมากนัก..,.

ซึ่งผมมาคิดเอาทีหลังว่า คงจะเพราะเริ่ม “แก่” เลยหาอะไรมาทำให้ “ตื่นเต้น” ยากขึ้นเรื่อยๆมากกว่า…

ผมกดไฟฉุกเฉิน จอดรถเข้าชิดเกาะกลาง คว้าโทรศัพท์ กด 1669 พร้อมกับวิ่งไปที่เกิดเหตุ ตรงรถ Taxi…

ใส่ชุดกีฬามาพอดี เลยทำให้ท่าวิ่งทะมัดทะแมงขึ้นอีก 10%….

คนขับออกจากรถมาผมดูแล้วไม่เป็นไรมาก แต่ท้ายรถเสียหายไปเยอะ ดูแล้ว แก๊สไม่รั่ว ก็มองไปที่รถอีกคัน… เจ้า Altis สภาพตูดยับยู่ยี่ จอดไม่ไหวติง ไม่มีใครออกมาจากรถ

 

ผมรีบวิ่งไปที่รถ พยายามเปิดประตู แต่ไม่ออก ส่องเข้าไปในรถ ก็มองเห็นรางๆ (ไม่รู้จะติดหนามากทำไม เพราะขนาดกลางวันยังมองเข้าไปแทบไม่เห็น) เห็นผู้หญิงขยับตัว ส่งเสียงอู้อี้ พยายามบอกว่าเปิดประตูรถไม่ออก ผมเลยออกแรงกระชากประตูเปิดออกมา

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถาม พร้อมพยายาม เปิดอีกบานด้านหลัง แต่ อันนี้เอาไม่ออก เพราะ ตัวรถบิดจนเสียรูป

“มีใครอยู่ด้านหลังหรือเปล่า”… ผมถาม น้องบอกว่ามีเพื่อนนั่งอยู่

ผมรีบมุดเข้าประตูหน้า เห็นผู้หญิงอีกคน นอนไม่ขยับ ไม่มีบาดแผล โทรศัพท์เข้าใจว่าเป็นของน้อง กระเด็นไปอยู่ด้านหลัง คาดว่าคงเล่นโทรศัพท์ อยู่ในวินาทีที่ชน

…1669 ที่ต่อไว้ มีคนรับสายแล้วผมโทรแจ้งเหตุ ระบุพิกัด และเน้นว่ามีคนเจ็บ

จุดเกิดเหตุอยู่หน้าศูนย์ Volvo นครปฐม จำได้ว่าคราวที่แล้ว ที่มีรถ 6 ล้อ มักง่าย วิ่งตัดถนน ไปชนรถตู้ ตายเจ็ดศพ ก็ตรงนี้….

ตอนนี้คนขับ Taxi ที่ผมเห็นหมุนคว้าง เดินมาที่รถ Altis… ผมดูจากสภาพท้าย Altis ที่เยินเสียหาย แล้วเหลือบ มาดู ท้าย น้อง เจ้าของ Altis แว๊บนึง แล้วจึงถามพี่Taxi

“พี่ชนเค้าเหรอ…” ผมถาม ด้วยชุด ที่ผมใส่ เค้าคงคิดว่าผมมา “นอกเครื่องแบบ”

“เปล่า ผมจอดรอ ยู เทริน์ นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ดีๆ เค้าก็มาชนผม พี่ Taxi รีบบอก ไม่ได้มีอาการโมโห

“พี่เหรอคนชน” ผมหันไปหา อีกคนที่เดินมากับ Taxi

“เปล่าาาาา ไม่ใช่ นี่เค้านั่งมากับผม ” พี่ Taxi รีบบอก

ผมเริ่มงง มุดเข้าไปดูคนเจ็บอีกทีเห็นรู้สึกตัวแล้ว เลยดูตา ว่าลอยหรือเปล่า ถามชื่อ ถามอาการ ดูว่า สมองยังโอเคมั๊ย
“ปวดหลัง….” น้องคราง คงกระแทกแบบไม่ได้ตั้งตัว เพราะเดาว่านั่งเล่นโทรศัพท์ อยู่ หลักฐานคือ โทรศัพท์ กระเด็นไปอยู่ตรงพิงศรีษะหลัง

“อยู่เฉยๆ นะครับ รถพยาบาลกำลังมา” ผมบอก

ผมออกมาถามรายละเอียดเหตุการณ์ อีกที เลยทราบว่า น้อง Altis วิ่งมาจากเลนซ้าย คงออกจากซอย แล้วตัดขวา เพื่อ U Turn เพราะซอยกับ U Turn ใกล้กันมาก….

แสดงว่า น้องพุ่งออกมาแล้วไม่พ้น ไปตัดหน้ารถที่วิ่งมาอีกคัน จนชนกระเด็น ไปซัดตูด Taxi ที่จอดอยู่…แล้วรถคันนั้นอยู่ไหนล่ะ

เอาล่ะซิ ตูดบุบทั้งคู่ คันชน คือคันไหน

ผมเริ่มมองหารถอีกคัน…เห็น pickup จอดอยู่ไกลๆ ประมาณเกือบร้อยเมตร

ผมขยับตัวหามุมมอง เลยสังเกตว่ารถคันนั้นหน้ายุบ

กำลังมองหาคนขับ จะวิ่งไปดู …สักพักมีคนวิ่งเท้าเปล่า ข้ามถนนมา ที่ศรีษะมีเลือด รอยเลือดเลอะเสื้อเต็มไปหมด

ผมเดาสถานการณ์ได้ว่านี่แหล่ะ คนขับ Pickup เลย ถามออกไป “พี่เจ็บตรงไหนบ้างครับ”

“ใคร.. ใครเป็นคนขับ” …พี่เค้าไม่สนใจ ตามองมาที่ผม ท่าทางโมโหจัด ถึงขนาดวิ่งเท้าเปล่ามาเลย

“น้องเค้าขับครับ ใจเย็นๆ พี่ ทำแผลก่อนมั๊ย” ผมบอก เพราะดูพี่เค้าอยากลั่นเปรี้ยงมาที่ใครสักคน

“คุณขับรถตัดออกมาอย่างนี้ได้ยังไง ออกจากซ้ายมาเลย รถผมวิ่งมาร้อยกว่า จะให้หลบไปทางไหน” พี่พูดเสียงดัง เดินเข้าใกล้น้องเค้า…เอาล่ะซิ กูว่างานนี้มีตบ

“หนูขับจะกลับรถ….” น้องพยายามอธิบาย

“ขับอย่างนี้ได้ตายกันบ้าง..” พี่เค้าบอก ก็ไม่รู้ว่าหมายถึงใคร ที่จะตาย…

“หนู….” น้องจะอธิบายอีก ผมเลยแทรก

“ขอโทษพี่เค้ารึยัง…. ” ผมหันไปทำตาดุ น้องรีบยกมือไหว้ขอโทษ

“พี่ใจเย็นๆ น้องมันขับรถไม่รู้เรื่อง…เจ็บตรงไหนบ้างเปล่า…”

ไม่รู้เพราะความที่สาวเจ้าตัวเล็ก หรือ เพราะพี่เค้าเริ่มแสบเท้า ก็ไม่รู้ เพราะเดินเท้าเปล่า หน้าอาบเลือดมาเกือบร้อยเมตรทำให้ดูเหมือน พี่เค้าจะใจเย็นลง

“เด็กมันขับรถไม่รู้เรื่อง พี่… ใจเย็นๆ พี่มีประกันมั๊ยครับ” ผมถามพยายามเปลี่ยนประเด็น

“มีครับ” พี่เค้าตอบ
“ดีครับพี่ พี่โทรเรียกประกันเลยครับ แล้วนั่งรอ ผมเรียกรถพยาบาลมาแล้ว เดี๋ยวรอทำแผลครับ” … ผมบอกพี่แล้วหันมาบอกน้องสาวคนขับ

“คราวหน้า ห้ามขับรถแบบนี้อีกนะ ตัดเลนบน Highway แบบนี้ ทุกคันมาเกินร้อย แสดงว่าระยะร้อยเมตรเนี่ย สามวินาทีถึงตัวแล้ว…. ” ผมบอกแบบไม่ต้องไปคำนวณต่อเลย

น้องหน้าจ๋อย แต่ก็ทำตาหวานบอกว่าเข้าใจ

ผมหันไปที่รถผม มี Accord สีน้ำตาล รุ่นเดียวกับผมมาจอดข้าง มีตำรวจลงมา เป็นตำรวจทางหลวง ผมยกมือไหว้ ตำรวจตะเบ๊ะตอบ

ผมเล่าสั้นๆ ให้ฟัง ตำรวจรับทราบ แล้วบอกว่า จะประสานงานตำรวจท้องที่ให้….

“งั้นผมฝากพี่ดูต่อเลยนะครับ” ….

ความช่วยเหลือมาแล้ว หมดภารกิจของผมแล้ว ผมกลับเข้ามาในรถ start เครื่องและวิ่งออกไป….

เสียง siren ดังมาจากข้างหน้า ผมมองไป รถพยาบาลหนึ่งคัน กับ รถตำรวจหนึ่งคัน วิ่งมาอย่างรวดเร็ว….

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น ไม่ถึงสิบนาที.. ผมมองกระจกหลัง แล้วเผลอยิ้มมุมปากด้วยความสุขใจ