ทำงานกันมากๆ จนรู้สึกว่าเวลาชักจะไม่ค่อยมีไปทำอย่างอื่น ก็ต้องหยุดมาทบทวนงานที่ทำกันหน่อยครับ เรียกว่าเป็นการสังคายนา งานกันก็ว่าได้

สัปดาห์นี้บริษัทใจดีให้มาเปลียนสถานที่ทำงานกันที่ มวกเหล็กครับโดยคราวนี้วัตถุประสงค์ก็เพื่อที่จะมาจัดลำดับความสำคํญของงานกัน จากนั้น ก็จัดการกับงานนั้นๆ เพื่อให้งานที่ออกมาจากเราเป็นงานที่มีประสิทธิภาพ และ คุณค่าสูง (High Value work and well done quality) อาจารย์ที่มาแนะนำตลอดหลักสูตรคือ อาจารย์เมธี คนรักแมวที่เป็น Consultant หรือที่ปรึกษาเรื่อง TQM ประจำบริษัท…

ทำงานเยอะๆ คงมีคงมีบ้างล่ะครับ ที่งานบางงานมีคุณค่าไม่มาก แต่ เราก็ทำ ซึ่งถ้ามีเวลาทำก็คงไม่เป็นไร แต่ ถ้าไม่ค่อยมีเวลาก็อาจต้องงดๆไป

มานั่งเขียน Blog ใน Space นี่เก็เรื่องหนึ่งครับ ที่คุณค่าต่อองค์กรไม่สูง แต่ ก็มีประโยชน์ต่อผมไม่น้อย…เป็นงานอดิเรกที่ทำได้เพลินๆ แบบค่าใช้จ่ายไม่มาก ได้อยู่กับบ้านไม่ต้องออกไปแร่ดที่ไหน และ ได้หยุดนึกทบทวนเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตช่วงหนึ่ง

ที่สำคํญเจ้า Space นี่ก็ทำให้ผมรู้จักสื่อที่ทันสมัยข่องทางหนึ่ง เวลาคนถามจะได้ไม่เชย ไม่เสียชื่อที่ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบงานด้าน IT ของบริษัท…หุหุ

….

มาที่นี่เค้าให้ทำ Work shop กันครับว่างานเราจัดเป็นกลุ่มไหนในสี่กลุ่มนี้ ซึ่งก็มี

งานคุณค่าสูง และ ทำได้ดี

งานคุณค่าสูง แต่ ยังไม่ค่อยดี ซึ่งเป็นชนิดที่ทำออกมา แล้วยังไม่ค่อย "แจ่ม" หรือ วัยรุ่นบอกว่า "ไม่ค่อย work"

งานคุณค่าสูง ที่ลงไม่ลงมือไปแล้ว งานไม่ค่อยออกมาเยอะนัก ขาดๆ หายๆ กระปริบกระปรอย อาจารย์เมธี แกเรียกงานประเภทนี้ว่า Low productivity แถวบ้านผมเรียก "ฝืด"

อันสุดท้ายเป็น งานประเภท "ไม่มีคุณค่า หรือ คุณค่าต่ำ"  หรือที่ฝรั่งเรียก Low value or Non value work เป็นงานที่เราไม่คิดว่าจะทำหรอกนะครับ แต่ พอ list ออกมาที่ไหนได้ มีโผล่ออกมาให้เห็นเหมือนกัน

เวลาทำก็จะแบ่งกลุ่มครับ ว่าเป็นกลุ่มที่ รายงานกับ MD โดยตรง หรือกลุ่มที่ รายงานกับ MD แบบอ้อม (อ้อมหมายถึง ไม่ตรง แบบว่ามี นายมาคั่นอีกคน นะครับ ไม่ใช่ อ้อมค้อม งึมๆ งัมๆ)  และ อีกกลุ่ม ก็จะเป็น Mananger

ทำออกมาก็สนุกดีครับ เพราะ ได้รู้ด้วยว่า ที่งานที่เราทำกันทั้งหมดน่ะ มันเป็นยังไง แล้ว ที่เราคิดกับลูกน้องเราคิด น่ะ ต่างกันแค่ไหน จะได้ ไปปรับจูน ให้ เข้ากันซะ

โดยเฉพาะงานกลุ่มที่ High Value แต่ มีปัญหาเนี่ย ต้อง หาวิธีมาจัดการให้งาน"หายฝืด" และ "แจ่ม" เพราะเป็นงานที่น่าทำ แต่ยังไม่ค่อยดี

วิธีการจะเป็นอย่างไร ก็คงเอามาเล่าให้ฟังกันวันหลัง ล่ะครับ เพราะ เดี๋ยวจะเป็น Blog วิชาการไปเสียก่อน ผิด Concept space พี่ป๋องไปซะ

เอาไว้ Blog วิชาการที่พี่เปิดไว้ เป็นเรื่องเป็นราว แล้ว จะชวนน้องๆ เพื่อนๆ ไปอ่าน ให้ไมเกรน ถามหากันหน่อย

….

ที่ Sir Jame Resort Country Club ที่มาพักเนี่ย เป็นทั้ง โรงแรม Resort และ สนาม Golf ครับ บรรยากาศต้องบอกว่าดีมากๆ สงบมี วิวขุนเขา ให้ดื่มด่ำธรรมชาติ ถึงแม้จะมีเวลาให้ดื่มด่ำไม่มาก เพราะ ต้องทำ Workshop แต่ก็เป็นการผ่อนคลายความเครียดได้ดีทีเดียวครับ

 IMAGE_141

ที่สำคัญ สระว่ายน้ำสวยครับ สระไม่ลึก แต่ ยาว พร้อม ส่วนที่เป็น จากูชี่ ให้น้ำมานวด เป็นการผ่อนคลายได้อย่างดี ใครมาพัก ติดกางเกงว่ายน้ำมาด้วยนะครับ เพราะ ที่นี่กางเกงเกงสำรองมีจำนวนจำกัด

IMAGE_146

ถ้ามี GPS ก็ ใส่พิกัดนี่เลยครับ N 14 35.555 E 101 11.848 ถึงโลด ไม่มีหลง

….

ขากลับ พี่ดา กับ พี่ประกาญจน์ พี่น่ารักสองคนที่ทำงานชวนแวะทานข้าวนั่งคุยกัน เพราะ ขากลับพอจะมีเวลากัน ผมเลยได้ update สถานที่สองที่ที่น่าสนใจระหว่างทางครับ

ที่แรกจะเป็น ร้านขายนมข้าวโพดชื่อ ข้าวโพดหวานไร่สุวรรณ (พิกัดสำหรับ ระบบ GPS N 14 30.140 E 101 18.645) มีผลิตผลจาก ข้าวโพด หลายแบบครับ อย่างอื่นก็มี แต่ที่เห็นไปหิ้วกันมากจะเป็น นมข้าวโพด ทำสดๆ ใหม่ๆ ครับ สิบขวด ร้อยยี่สิบบาท อร่อย และ ดีต่อสุขภาพ ผมกับ เจ๊ดา ก็หิ้วกันมาคนละถุง ส่วนเฮีย ประกาญจน์ แกหิ้วข้าวโพดไปนั่งแทะเล่นที่บ้าน ข้าวโพดสวยมากตกฝักละหกบาทเอง…

IMAGE_151

นึกถึงข้าวโพดต้มที่เขมร พวกใส่ผงชูรสลงในน้ำต้มเลย กินแล้วอร่อยดี แถมกินเสร็จปากจะชาไปอีกสองชั่วโมง หุหุ…

อีกแหล่งเป็นร้านอาหารครับ ชื่อ Dairy Home (พิกัดสำหรับระบบ GPS N14 37.978 E 101 12.711)  ตอนไปก็ยังรู้สึกอิ่มๆ อยู่ครับ แต่เข้าไปในร้านแล้วอดสั่งอาหารไม่ได้ครับ ร้านน่ารักทีเดียว และ รสชาติพวก Streak ก็อร่อยครับ ใครผ่านแถวนั้นน่าจะลองแวะทานดู

IMAGE_152

ที่เห็นแปลกสุดก็คงเป็นห้องน้ำชายน่ะครับ เพราะ ที่นี่ตรงโถปัสสาวะ มีสายชำระให้ด้วย คงจะให้อนามัยกันสุดๆ ทั้งคนทำ และ คนทาน เพราะ ให้ทำความสะอาดกันถึง "ต้นตอ" เลยทีเดียว ตอนแรกเห็นผมยังนึกว่าคงอาจจะมีไว้ให้ล้างมือกันตรงนี้เลยละมั้ง แต่มานึกอีกทีล้างมืออย่างเดียวคงจะไม่ใช่…

IMAGE_153

เพราะมือน่ะเดินเอามาล้างตรงอ่างล้างมือ ล้างหน้าที่จัดไว้ก็คงพอได้ … แต่ถ้าใครงัด" ..คิวทาโร่น้อย…" ออกมาล้างตรงอ่างล้างมือ คงมีหวังได้ฮือฮากันแน่ ทางร้านเลย "จัดให้" ทำความสะอาดกันตรงนั้นเลย

ผมว่าน้ำมันแรงไปหน่อยนะครับ ใครใช้จริงๆๆ มีหวังได้สะดุ้งกันบ้าง…แต่ยังไงก็ขอชมครับว่าเป็น Idea ที่ดีกันอีกแบบ …

อย่างน้อยสายชำระตรงโถปัสสาวะท่านชาย ก็ทำให้ ผู้หญิง กับ ผู้ชายก็ สิทธิเสมอภาค เท่าเทียมกัน เพิ่มขึ้นอีกเรื่องแล้วล่ะครับ…หุหุ